เป็นโรคหูชั้นนอกอักเสบจากเชื้อรา เชื้อราที่เป็นสาเหตุ ได้แก่ แอสเปอร์จิลลัสไนเจอร์ และแคนดิดา อัลบิแคนส์ มักพบโรคนี้หลังจากที่ผู้ป่วยเล่นน้ำ หรือใช้ไม้แคะหูร่วมกับผู้ที่เป็นโรคนี้ หรือผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่นผู้ป่วยที่เป็นโรคติดเชื้อในหูเรื้อรังและใช้ยาหยอดหูที่เข้ายาปฏิชีวนะหรือยาสตีรอยด์เป็นเวลานาน ผู้ป่วยที่เป็นโรคเชื้อราตามผิวหนังหรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นต้น
อาการ
ผู้ป่วยจะมีอาการคันในรูหูมาก อาจมีอาการปวดหู หรือหูอื้อร่วมด้วย
สิ่งตรวจพบ
มักตรวจพบมีลักษณะขุยๆ สีขาว สีดำหรือน้ำตาล ติดอยู่บนผิวหนังในรูหูเมื่อใช้เครื่องส่องหู
การรักษา
1.ให้หยุดใช้ยาหยอดหูที่เข้ายาปฏิชีวนะหรือยาสตีรอยด์ที่เคยใช้อยู่
2. เช็ดในช่องหูวันละ 3-4 ครั้ง ด้วยไม้พันสำลีชุบน้ำยาโพวิโดนไอโอดีน
3. ใช้ยาหยอดหูที่เข้ายารักษาโรคเชื้อรา เช่น โคลไตรมาโซล หยอดหูวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 4-5 หยด
ควรส่งไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาสาเหตุถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ หรือเป็นๆ หายๆ บ่อย ผู้ป่วยบางรายอาจเป็นเบาหวานโดยไม่รู้ตัวมาก่อนก็ได้จึงควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดร่วมด้วย