สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

เลือดกำเดา(Epistaxis/Nose bleed)

เป็นภาวะที่มีเลือดไหลออกทางจมูกเนื่องจากหลอดเลือดฝอยบริเวณเยื่อจมูกแตกทำลาย มักเกิดขึ้นโดยฉับพลัน อาจเป็นข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ไม่มีอันตรายร้ายแรงมักหายได้เอง พบได้ในคนทุกวัย บางรายอาจมีอาการเป็นๆ หายๆเลือดกำเดา

สาเหตุ
ส่วนใหญ่มักไม่มีสาเหตุร้ายแรง มีเลือดออกเล็กน้อยและหยุดได้เอง เช่น เกิดจากไข้หวัด หวัดภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ หลอดเลือดฝอยเปราะเนื่องจากอากาศแห้ง การแคะจมูกแรงๆ เป็นต้น

บางรายเกิดจากการได้รับบาดเจ็บเช่นถูกกระแทกที่ดั้งจมูก ในผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูงอาจมีเลือดกำเดาไหลได้ในบางครั้ง หรืออาจพบร่วมกับโรคติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดใหญ่ มาลาเรีย ไทฟอยด์ ไข้เลือดออก คอตีบ เป็นต้น

มีส่วนน้อยที่มาจากสาเหตุร้ายแรง เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ ไอทีพี ซึ่งมักมีเลือดออกตามไรฟัน มีจ้ำเขียวตามตัว มีไข้ หรือตับโตม้ามโตร่วมด้วย

ในรายที่มีเลือดกำเดาไหลบ่อยร่วมกับการคัดจมูก หูอื้อ มีก้อนบวมที่คอ อาจเกิดจากโรคมะเร็ง หรือเนื้องอกในจมูกหรือโพรงหลังจมูกก็ได้

อาการ
มีเลือดสดๆ ไหลออกมาทางรูจมูก

ภาวะแทรกซ้อน
ถ้าเลือดไหลออกมามากๆ อาจทำให้เกิดภาวะซีดได้ แต่มีค่อนข้างน้อย

การรักษา
1. ปฐมพยาบาลโดยให้ผู้ป่วยเงยหน้าขึ้น หรือก้มหน้าลงมากๆ ใช้นิ้วบีบจมูกทั้ง 2 ข้างให้แน่นประมาณ 5-10 นาที โดยให้ผู้ป่วยหายใจทางปาก หากยังไม่ได้ผลให้ทำซ้ำอีกครั้งนาน 10 นาที ถ้าเลือดยังไม่หยุดให้ใช้ผ้าก๊อซชิ้นเล็กๆ ชุบอะดรีนาลินให้ชุ่มสอดในรูจมูกข้างที่เลือดกำเดาไหลให้แน่น จะช่วยให้หลอดเลือดฝอยตีบและเลือดหยุดได้ ควรใส่ไว้ 2-3 ชั่วโมงแล้วค่อยดึงออกเมื่อแน่ใจว่าเลือดหยุดไหลแล้ว

2. ควรหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการเลือดกำเดาไหล เช่น ตรวจวัดไข้ วัดความดันโลหิต คลำตับม้าม ดูรอยเขียวตามตัว และให้รักษาโรคตามสาเหตุที่พบนั้น หรือควรส่งโรงพยาบาลหากไม่แน่ใจ

3. หากอาการเลือดกำเดาไหลไม่หยุด หรือเป็นเรื้อรัง และสงสัยว่าจะมีสาเหตุที่ร้ายแรงจากโรคอื่นๆ ควรส่งให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจในแน่ชัด ในบางรายอาจต้องรักษาโดยการจี้ด้วยไฟฟ้า(electrocautery)

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า