สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

เยื่อบุตาอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

โรคตาแดง

การอักเสบของเยื่อบุตาหรือโรคตาแดง

มักจะเรียกกันทั่วไปว่า “โรคตาแดง” การที่เกิดตาแดงขึ้นนั้น เพราะเส้นเลือดที่พอตาขยายตัวขึ้น หรือมีเลือดออกเป็นจุดเล็กๆ และเนื่องจากว่าเยื่อบุตาหุ้มอยู่บนตาขาวจึงทำให้สังเกตได้ชัดมาก เมื่อมีการขยายตัวหรือเลือดออกมาเพียงเล็กน้อย

ตาแดงไม่จำเป็นจะต้องเป็นโรคของเยื่อบุตาอย่างเดียวเสมอไป จึงเป็นไปได้ว่าคนที่ตาแดงแล้วคิดว่าเป็นโรคอย่างเดียวกันไปหมด และการที่คิดว่าเป็นเพียงโรคตาแดงธรรมดาเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเป็นสาเหตุให้หลายคนนิ่งนอนใจ บางครั้งถึงกับสูญเสีย สายตาไปได้ เพราะตาแดงนั้นเกิดขึ้นจากโรคได้หลายอย่าง นอกจากเยื่อบุตาอักเสบแล้ว ต้อหิน แผลของตาดำ ม่านตาอักเสบ หนองภายในลูกตา ก็ทำให้ตาแดงได้ทั้งสิ้น ธรรมชาติพยายามให้เยื่อบุตาแดงเข้าไว้ เพื่อเป็นสิ่งเตือนถึงภัยอันตรายตั้งแต่ระยะแรก แต่มนุษย์มาเรียนหรือเข้าใจผิด ไม่สนใจกับการเตือนของธรรมชาติ จึงมีการสูญเสียสายตากันไปมาก ฉะนั้นเมื่อมีตาแดงเกิดขึ้น อย่านึกว่า เป็นเรื่องธรรมดา จัดการหาทางหาสาเหตุเสียโดยเร็ว

เยื่อบุตาอักเสบเนื่องจากเชื้อแบคทีเรีย

โรคตาแดงที่เป็นเยื่อบุตาอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย นั้น โดยทั่วๆ ไปแล้วมักจะไม่ค่อยรุนแรงมากและไม่อันตราย ยกเว้นเชื้อหนองในหรือที่เรียกว่าโกโนเรีย เยื่อบุตาอักเสบจากแบคทีเรียทั่วๆ ไปนั้น ผู้ป่วยจะมีอาการตาแดง ถ้าเป็นรุนแรงจะมีอาการเคืองตา จะมีขี้ตามาก ลักษณะของขี้ตาจะมีสีเขียวหรือเหลืองขุ่นเป็นก้อน เมื่อตื่นนอนตาอาจลืมไม่ขึ้น เพราะมีขี้ตามากและแข็ง ดังที่ได้กล่าวแล้วว่าโรคนี้ไม่อันตราย แต่ควรได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อให้ระยะของโรคสั้นลง การรักษาเบื้องต้นก็คือใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่มีสตีรอยด์ หยอดตาวันละ 4-8 ครั้ง ขึ้นอยู่กับอาการรุนแรงของโรค โรคนี้ติดต่อได้ แต่ก็ไม่ง่ายนัก ถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีจะหายภายใน 3-5 วัน

ที่สำคัญและจะขอนำมากล่าวอย่างละเอียด คือการอักเสบ ที่เกิดขึ้นจากเชื้อหนองใน (โกโนเรีย) เชื้อนี้จะทำอันตรายรุนแรง อย่างมหาศาลให้แก่ตา เพราะมันมีฤทธิ์ทำลายรุนแรง สามารถ เจาะทะลุลูกตาได้ในเวลารวดเร็ว ถ้ารักษาไม่ทันลูกตาจะกลายเป็นหนองอย่างรุนแรงที่สุด

การติดต่อโรคนี้ คือเชื้อต้องเข้ามาสู่ตาโดยตรง คือจาก บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์โดยมือที่สกปรก ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดตัว ที่ร้ายแรงและน่าสงสารที่สุดคือ อาการที่เกิดขึ้นกับเด็กที่คลอดออกมาในมารดาที่เป็นโรค เด็กจะได้รับเชื้อโดยตรง เมื่อผ่านช่องคลอดออกมา ถ้าพ่อแม่มัวแต่เกี่ยงกันเรื่องว่าใครเป็นใครไม่เป็น ไม่สังเกตลูกให้ดี ตาลูกจะบอดได้อย่างเร็วที่สุด

ผู้ที่มีอาการจะพบว่า ตาของตัวเองแดง หนังตาบวม มีขี้ตาสี เขียวๆ เหลืองๆ ออกมาเต็มไปหมด ระยะแรกๆ อาจจะมีอาการ น้อยๆ เพียงแต่รู้สึกว่าเคืองตา นํ้าตาไหล ตื่นเช้ามาตาติดกัน ต้อง ใช้มือแหวกจึงจะลืมได้ อาการจะมากขึ้นทุกอย่างรุนแรงขึ้นทุกที นํ้าตาจะไหลมาก เจ็บมากขึ้น สายตามัวลงจนมองไม่เห็นอะไรในที่สุด

ถ้าเป็นในเด็ก พ่อแม่จะสังเกตได้ทันทีในระยะเวลาประมาณ 2 – 5 วัน หลังคลอดเด็กจะมีหนังตาบวมแดง ขี้ตากลบ พยายาม เบนหน้าไม่สู้แสง เยื่อตาบวมชํ้าแดง ถ้าเป็นมากตาดำจะมีสีขุ่น ขาว ถ้าปล่อยไว้อีกจะเห็นว่าตาดำทะลุ สารต่างๆ ภายในลูกตา ทะลักออกมา แล้วทุกอย่างๆ ก็จะกลายเป็นหนองไปหมด

การป้องกัน ตามที่เคยรู้กันอยู่ระหว่างหมู่นักเที่ยว ทั้งหลายว่า จงพยายามหลีกเลี่ยง ผ้า กระดาษชำระ หรืออะไรทุกอย่างมาเช็ดตา หรือบริเวณหน้า มือไม้ต้องล้างให้สะอาดจริงๆ ถ้าสงสัยว่าผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวอาจมีเชื้อ การต้มแล้วตากให้แห้ง ก็จะทำให้เชื้อตายไปได้ ถ้าไม่แน่ใจทิ้งไปเลยจะดีกว่า

ผู้ที่ตั้งครรภ์ ไม่มีอะไรดีไปกว่าให้แพทย์ตรวจ เพราะโรค หนองในนี้ อาจเป็นอยู่ในเพศหญิงโดยเจ้าตัวไม่รู้สึกผิดปกติอะไร เลย เรื่องความไว้วางใจในความบริสุทธิ์ของสามีก็เอาอะไรเป็น นิยายไม่ได้ ลองเขาเป็นชายแล้วโอกาสเป็นได้ทั้งนั้น ฉะนั้น เพื่อความปลอดภัยของลูกเราซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลย จะปล่อยให้มารับกรรมที่เราก่อไว้หรือละเลยไว้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม โรงพยาบาลและสถานผดุงครรภ์ทั่วไปจะมีวิธีที่ป้องกันทั้งสำหรับ มารดาและทารกไว้อย่างพร้อมบริบูรณ์ เราจึงควรไปปรึกษาตั้งแต่ เริ่มตั้งครรภ์และคลอดในที่ที่มีบริการป้องกันต่างๆ เหล่านี้

การแก้ไข การรักษาเชื้อหนองในนี้เป็นเรื่องด่วน เพราะทิ้ง ไว้แม้เพียงวันเดียวก็ไม่มีทางจะนำกลับคืนมาได้แล้ว การรักษา

ประกอบด้วย การล้างตาบ่อยๆ และหลายๆ หนระหว่างหยุดการล้างก็ต้องให้ยาปฏิชีวนะบ่อยมาก และต้องให้กันตลอดทั้งวันทั้ง คืน ทั้งหยอดและรับประทานหรือฉีด

ถ้าแก้วตาดำยังไม่ถูกลุกลาม ส่วนใหญ่ตาจะกลับคืนสู่ปกติ ได้ ถ้าเราควบคุมเชื้อไว้ได้ แต่ถ้าแก้วตาดำมีแผล แล้วแผลนั้นลึกถึงจะควบคุมโรคได้ ก็จะมีแผลเป็น เป็นรอยขุ่นขาวหรือต้อลำไยซึ่งจะทำให้สายตาเสื่อมไปอย่างมาก จะต้องมีการผ่าตัดแก้ไขต่อไปอีก

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า