สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

หูชั้นนอกอักเสบ(Otitis externa)

เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนหนุ่มสาว ในผู้ป่วยเบาหวานหรือโรคเอดส์อาจพบว่าเป็นรุนแรงหูชั้นนอกอักเสบ

สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อสแตฟีโลค็อกคัส ซึ่งมักจะพบหลังเล่นน้ำ หรือแคะหู ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังในรูหู หรืออาจเป็นฝีเฉพาะที่

อาการ
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดในรูหู หรืออาจมีน้ำเหลืองหรือหนองไหลจากรูหู ในบางรายอาจมีไข้ และอาการหูอื้อร่วมด้วย

สิ่งตรวจพบ
มักตรวจพบว่าผู้ป่วยจะเจ็บในรูหูมากขึ้นเมื่อดึงใบหูแรงๆ ซึ่งเป็นลักษณะอาการสำคัญของโรคนี้ แต่จะตรวจไม่พบอาการนี้ในผู้ป่วยที่เป็นหูชั้นกลางอักเสบ

เมื่อใช้เครื่องส่องหู มักจะเห็นว่าเยื่อแก้วหูเป็นปกติไม่มีรูทะลุ แต่จะเห็นลักษณะการอักเสบหรือฝีอยู่ในช่องหู หรืออาจตรวจพบต่อมน้ำเหลืองโตที่หน้าหู หลังหู หรือบริเวณคอในบางราย

การรักษา
ให้การรักษาแก่ผู้ป่วยด้วยยาแก้ปวดลดไข้และยาปฏิชีวนะ เช่น ไดคล็อกซาซิลลิน หรืออีริโทรไมซิน

อาจให้ยาหยอดหูที่เข้ายาปฏิชีวนะหยอดหูวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละมากกว่า 5 หยดร่วมด้วย และควรใช้ไม้พันสำลีเช็ดหนองออกก่อนหยอดยาถ้ามีหนองไหล

ควรให้ยาปฏิชีวนะ 5-7 วัน ถ้าอาการดีขึ้น แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือเป็นบ่อย ควรส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาสาเหตุ และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานหรือโรคเอดส์

ข้อแนะนำ
1. เวลาอาบน้ำควรใช้สำลีอุดรูหู ไม่ควรเล่นน้ำในสระหรือแม่น้ำลำคลอง หรือระวังอย่าให้น้ำเข้าหูระหว่างที่มีอาการ

2. โรคนี้ส่วนมากสามารถรักษาให้หายได้ภายใน 5-7 วัน มักไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แต่ก็อาจเกิดอาการกำเริบได้ในบางราย ควรส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลหากให้การรักษาแล้วยังมีอาการเป็นๆ หายๆ อยู่

3. ควรตรวจเลือดว่าเป็นเบาหวาน หรือโรคเอดส์หรือไม่ ถ้าพบว่าหูชั้นนอกอักเสบรุนแรง เช่น ปวดหูมาก หนองไหล มีกลิ่นเหม็น หูตึง หรือมีอาการปากเบี้ยว

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า