เป็นการอักเสบของขอบหนังตาบน มีอาการเป็นๆ หายๆ อาจเป็นพร้อมกันได้ที่ตาทั้งสองข้าง แบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ ชนิดเป็นแผลเปื่อย กับชนิดเป็นเกล็ดรังแค
สาเหตุ
ชนิดเป็นแผลเปื่อย เกิดจากการติดเชื้อสแตฟีโลค็อกคัส
ชนิดเป็นเกล็ดรังแค ไม่ทราบสาเหตุการเกิดโรคที่แน่ชัด แต่มักจะพบร่วมกับภาวะที่มีรังแคที่หนังศีรษะ ใบหู และคิ้ว
อาการ
ผู้ป่วยมักจะมีอาการเคืองตาคล้ายมีอะไรเข้าตา ปวดร้อนและอาจมีอาการคันร่วมด้วย หรืออาจมีน้ำตาไหลและกลัวแสงในบางราย
อาจมีคราบหนองติดที่ขอบตาในรายที่เป็นชนิดแผลเปื่อย จะมีเลือดซึมเมื่อเขี่ยออกมา ต่อมขนตาที่ขอบตาจะเป็นตุ่มหนองแล้วแตกเป็นแผล ตาจะติดกันเมื่อตื่นนอนเพราะมีคราบหนองเกาะอยู่ ผู้ป่วยอาจมีประวัติการเป็นกุ้งยิงแบบเป็นๆ หายๆ บ่อยครั้ง
สิ่งตรวจพบ
มักพบว่าผู้ป่วยมีอาการหนังตาบวมแดง
จะพบตุ่มหนองหรือแผลที่ขอบตา ในชนิดแผลเปื่อย
จะพบเกล็ดสีขาวที่ขอบตา ซึ่งเขี่ยออกได้ง่าย อาจพบรังแคที่หนังศีรษะ ใบหู และคิ้วร่วมด้วยในรายที่เป็นชนิดเกล็ดรังแค
ภาวะแทรกซ้อน
อาจทำให้ขนตาร่วง เกิดแผลเป็นตรงขอบตาและอาจทำให้เกิดแผลกระจกตาได้ถ้าเป็นแบบแผลเปื่อยเรื้อรัง
การรักษา
1. ให้ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำสุกหรือน้ำเกลือเช็ดชำระให้สะอาดประคบด้วยน้ำอุ่นจัดๆ แล้วใช้ยาป้ายตาปฏิชีวนะอีริโทรไมซิน ป้ายที่ขอบหนังตา วันละ 3-4 ครั้ง ในรายที่เป็นแผลเปื่อยและมีคราบหนอง ส่วนในรายที่มีการอักเสบมาก ให้กินไดคล็อกซาซิลลิน หรืออีริโทรไมซิน 5-7 วัน หรือควรแนะนำให้ไปโรงพยาบาลถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น
2. ให้ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำสุก หรือน้ำเกลือเช็ดชำระออก และใช้แชมพูรักษารังแค เช่น ซีลีเนียมซัลไฟด์ ซิงค์ไพริไทโอน หรือโคลทาร์ สระผม และบริเวณที่เป็นรังแคทุกวันในรายที่ไม่มีแผลเปื่อยแต่มีเพียงเกล็ดสีขาวของรังแค และให้ใช้ยาหยอดตาสตีรอยด์ทาตรงบริเวณขอบตาวันละ 3-4 ครั้งถ้ามีอาการคันหรือบวมแดงมาก