สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

สัมผัสเพื่อสุขภาพ(Touch for Health)

เป็นระบบการปฏิบัติที่ใช้หลักธรรมชาติอย่างง่ายๆ ในการดูแลรักษาสุขภาพตัวเอง ซึ่งเป็นการสังเคราะห์วิธีการและเทคนิคหลายอย่าง รวมทั้งหลักการการฝังเข็ม การนวดแบบกดจุด การทดสอบกล้ามเนื้อ การนวดและคำแนะนำในเรื่องอาหารการกินเข้าด้วยกัน

วิธีการนี้มุ่งเพื่อให้คนธรรมดาสามัญได้ฝึกหัดและทำกับคนอื่นๆ เป็นหลัก แม้ว่า สัมผัสเพื่อสุขภาพ จะใช้กันอยู่ในบรรดานักวิชาชีพที่ทำงานด้านสุขภาพอนามัยมากมายที่ใช้ประกอบการปฏิบัติงานรักษาผู้ป่วยของตนเป็นประจำอยู่แล้วก็ตาม

มีวิธีการบำบัดรักษาและเยียวยามากมายที่จำเป็นต้องอาศัยบุคคลที่สอง เพราะไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ เมื่อมีบุคคลที่สองมาเกี่ยวข้องและมีการใช้สัมผัสก็ทำให้มีการสื่อสารและความไว้วางใจพัฒนาในระดับที่สูงขึ้น เมื่อสามารถช่วยเหลือกันระหว่างคนสองคนได้เรื่องนี้จึงนำไปใช้ได้สำหรับคนในครอบครัวเดียวกันและระหว่างเพื่อนฝูงได้

ในส่วนที่เกี่ยวกับความคิดของสัมผัสเพื่อสุขภาพที่ว่า สุขภาพดีมาจากภายใน และเน้นเรื่องการส่งเสริมและรักษาสุขภาพที่ดีมากกว่าการรักษาอาการป่วย ซึ่งเป็นปรัชญาอย่างเดียวกันกับการแพทย์แผนไคโรแพร็คทิค

ในทศวรรษที่ 1960 ได้มีการพัฒนาระบบที่มีชื่อว่า คิเนซิโอโลยีประยุกต์(Applied Kinesiology) ขึ้นมาโดยแพทย์แผนไคโรแพร็คทิค ที่มีชื่อว่า ดร.จอร์จ กู๊ดฮาร์ด โดยอาศัยอาการทำแผนภูมิเกี่ยวกับการส่งผลสะท้อนของกล้ามเนื้ออย่างเป็นระบบรวมทั้งผลกระทบที่แรงสะท้อนมีส่งไปถึงอวัยวะต่างๆ ที่ตรงกัน เพื่อให้ทราบแน่นอนถึงความแข็งแรงและความอ่อนแอของกล้ามเนื้อ ด้วยการทดสอบต่างๆ เป็นลำดับ

จากนั้นก็จะอาศัยข้อมูลจากแผนภูมิตามหลักคิเนซิโอโลยีเพื่อกำหนดวิธีการเสริมสร้างกล้ามเนื้อหรืออวัยวะที่เกี่ยวข้องโดยใช้การนวด การกดจุด สมุนไพรและโภชนาการ

ดร.จอห์น เอฟ. ธี(John F. Thie) แพทย์แผนไคโรแพร็คทิคในพาซาดีน่า แคลิฟอร์เนีย ได้เป็นผู้ที่พัฒนาการเยียวยาที่มีชื่อว่า สัมผัสสุขภาพ นี้ขึ้นมา โดยการปรับปรุงคิเนซิโอโลยีประยุกต์ให้ง่ายเข้า สำหรับให้คนทั่วไปสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

ปัจจัยพื้นฐานของระบบการ สัมผัสเพื่อสุขภาพ คือการทดสอบกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อแต่ละกลุ่มที่ทดสอบนั้นจะเกี่ยวโยงไปถึงการทำงานของกล้ามเนื้อ การทำงานของร่างกายหรืออวัยวะที่สัมพันธ์กัน ซึ่งจะระบุลงไปได้ว่ากล้ามเนื้อส่วนไหนแข็งแรง ส่วนไหนอ่อนแอ ที่บอกให้รู้ว่าร่างกายบริเวณไหนที่จะต้องใช้ สัมผัสเพื่อสุขภาพ

เมื่อทดสอบพบกลุ่มกล้ามเนื้อที่อ่อนแอ แสดงว่ามีความผิดปกติของอวัยวะที่ยังไม่ปรากฏอาการโดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้เลย ซึ่งกระบวนการทดสอบกล้ามเนื้อโดยทั่วไปจะนำมาใช้ยืนยันอาการ เช่น ความเจ็บปวดที่แสดงถึงปัญหาทางสรีระ

เมื่อรู้ว่ากล้ามเนื้อกลุ่มไหนอ่อนแอก็จะมีการจัดโปรแกรมการเสริมสร้างความแข็งแรงเพื่อให้ ซึ่งมีวิธีการต่างๆ หลายอย่าง เช่น การนวดตามจุดที่อยู่บนแนวเมอริเดียนที่ใช้ฝังเข็ม การกดตามจุดที่ใช้สำหรับการนวดแบบกดจุด การใช้นิ้วกดลงบนจุดยึดทางประสาทและกล้ามเนื้อที่ศีรษะ การนวดระดับลึกที่จุดนวดประสาท-น้ำเหลืองและการนวดตรงรอยต่อของกระดูกที่กะโหลกศีรษะ เพื่อให้การเคลื่อนไหวของของเหลวในเยื่อหุ้มสมอง-ไขสันหลังเป็นไปได้สะดวกขึ้น

จะมีการปล่อยให้กล้ามเนื้อได้พัก หลังจากที่ได้เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อแล้ว เพื่อเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของการเสริมสร้างความแข็งแรง และเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อที่มีกำลังพอจะช่วยทำให้การเรียงตัวภายในอย่างสมดุลยิ่งขึ้น

ร่างกายจะอยู่ในภาวะสถิตสมดุลเมื่อกล้ามเนื้อทุกส่วนแข็งแรงและทำงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องไปชดเชยให้กับกล้ามเนื้อที่อ่อนแอเพื่อรักษาดุลของโครงสร้าง มีการไหลเวียนของพลังงานไปทั่วร่างกายโดยไม่ติดขัด มีชีวิตชีวามากขึ้น ช่วยส่งเสริมความสามารถตามธรรมชาติของร่างกายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี

สัมผัสเพื่อสุขภาพ ทุกวันนี้ทั่วสหรัฐฯ แคนาดา และตามที่ต่างๆ ทั่วโลก ได้มีการจัดชั้นเรียนสอนตามโรงเรียน ศูนย์สุขภาพ ศูนย์สันทนาการและตามบ้านพักฟื้นต่างๆ ทั่วไป

สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชื่อผู้สอนและผู้ให้บริการนี้จากมูลนิธิสัมผัสเพื่อสุขภาพได้ตามที่อยู่ดังนี้
Touch for Health Foundation
1200 North Lake Avenue, Suite A
Pasadena, CA 91102
USA.

หนังสือเกี่ยวกับสัมผัสเพื่อสุขภาพ ของนายแพทย์จอห์น เอฟ. ธี ที่ได้บรรยายกระบวนการนี้ไว้อย่างละเอียดคือหนังสือเรื่อง Touch for Health และยังมีหนังสืออื่นๆ รวมทั้งแผนภูมิและเครื่องช่วยสอนเกี่ยวกับสัมผัสเพื่อสุขภาพ จำหน่ายตามร้านหนังสือด้วยเหมือนกัน

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า