สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

วิธีการเทร็กเกอร์(Trager Approach)

มีอีกชื่อหนึ่งว่า เทร็กเกอร์เวิร์ค(Tragerwork) เป็นระบบการสอนวิธีการเคลื่อนไหวที่นำเอาการนวดและลำดับการเคลื่อนไหวเข้ามาประกอบกันและนำเอาวิธีการที่มีชื่อว่า Trager Psychophysical Integration หรือการประสานจิตกับกายแบบเทร็กเกอร์ มาประกอบเข้ากับการศึกษาการเคลื่อนไหวแบบเมนทาสติคส์ หรือด้วยการคิด(Mentastics Movement Education) แม้ว่าเทร็กเกอร์เวิร์คจะช่วยเยียวยารักษาโรคได้ แต่ก็ใช้ในแง่ของประสบการณ์การเรียนรู้เสียมากกว่าที่จะใช้เป็นวิธีการรักษาแบบจริงจัง

นายแพทย์มิลตัน เทร็กเกอร์(Milton Trager) ได้ใช้เวลากว่า 50 ปี ในการสร้างและพัฒนาวิธีการเทร็กเกอร์ขึ้นมา เทร็กเกอร์มีอาชีพเป็นนักมวยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา เมื่อตอนอายุได้ 18 ปี ก่อนหน้านี้เขาก็เริ่มตระหนักแล้วว่า มือของเขามีพรสวรรค์ เขาได้เอามือที่มีพรสวรรค์นั้นไปใช้กับเพื่อน เพื่อนบ้าน กับพ่อ ที่ป่วยเป็นโรคไซแอ็ตทิก้า(sciatica)ที่มีอาการปวดแปลบไปตามเส้นประสาทตั้งแต่ต้นขาไปจนถึงปลายเท้าหลังจากที่ครูฝึกชกมวยชมว่าเขาเช็ดถูตัวได้เก่ง และเลิกชกมวยเพื่อถนอมมือของเขาเอาไว้

เทร็กเกอร์ได้ตัดสินใจทดลองวิธีการเคลื่อนไหวแบบใหม่หลังจากที่ไปเป็นนักระบำและนักกายกรรมอยู่ระยะหนึ่ง เขาพยายามที่จะกระโดให้นุ่มขึ้น มิใช่ให้สูงขึ้นขณะที่กำลังฝึกกระโดดกับน้องชายที่ชายหาด เขาจึงได้เกิดความสนใจการเคลื่อนไหวแบบใหม่ในแบบที่เหมือนกับว่าไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรเลยนี้ขึ้น

เทร็กเกอร์มีความสนใจในเรื่องสุขภาพทางกายมากขึ้น และในปี 1941 เขาได้ปริญญาเอกในสาขาการแพทย์กายภาพ(Physical Medicine) จากมหาวิทยาลัยดรักเลส ฟิซิเชียน ในลอสแองเจลีส ต่อมาเขาก็ได้เริ่มทำงานกับผู้ป่วยที่เป็นโรคโปลิโอ

เทร็กเกอร์มีอายุสี่สิบปีเศษแล้วในปี 1949 แต่เขาอยากเป็นแพทย์ จึงได้สมัครเข้าเรียนในสถาบันการแพทย์ แต่ก็ถูกปฏิเสธจากหลายสำนักในสหรัฐฯ แต่ก็มีสถาบันแพทย์ศาสตร์แห่งหนึ่งในเม็กซิโกได้รับเขาเข้าเรียนในที่สุด

เทร็กเกอร์ได้สาธิตเทคนิคที่เขาเคยใช้กับคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคโปลิโอระหว่างที่เรียนอยู่ในโรงเรียนแพทย์ งานของเขาเป็นที่ประทับใจของสถาบันแพทย์ และได้เปิดคลินิกการฟื้นสมรรถภาพขึ้นโดยให้เทร็กเกอร์ทำงานอยู่ที่นี่ด้วยในระหว่างที่เรียนอยู่

เทร็กเกอร์ได้เดินทางไปฮาวายและได้เปิดคลินิกรับรักษาผู้ป่วยขึ้นหลังจากที่ได้รับปริญญาแล้ว ทำให้มีโอกาสได้ฝึกฝนขัดเกลาเทคนิคงานของเขา อีกเกือบ 20 ปีที่งานของเขาได้ดำเนินต่อไปจนได้มีผู้มาค้นพบเข้า

ในปี ค.ศ.1975 นายแพทย์มิลตัน เทร็กเกอร์ ได้รับการยอมรับหลังจากที่ได้ไปสาธิตที่สถาบันอีซาเลน ในบิกเซอร์ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ ดร.ไอดา พี.รอล์ฟ ได้แสดงผลงานเกี่ยวกับการประสานโครงสร้าง(Structural Integration)ก่อนหน้านั้นมาแล้วหลายปี

การแก้ไขหรือบรรเทาลักษณะการยืดตัวของกล้ามเนื้อและประสาทที่ขัดขวางหรือยับยั้ง หรือบิดการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลอย่างเสรีตามธรรมชาติของร่างกายคือเป้าหมายของเทร็กเกอร์บอดี้เวิร์ค แบบแผนพวกนี้มักเป็นผลมาจากความเจ็บปวดทางกายหรือทางอารมณ์ หรืออาจเกิดจากอุบัติเหตุ การได้รับบาดเจ็บ การผ่าตัด ความเศร้าโศกเสียใจ ท่าทรงตัวที่ไม่ดี ความตึงของกล้ามเนื้อ ที่เกิดมาจากความเครียดในการดำเนินชีวิตประจำวัน ความเจ็บไข้ได้ป่วย นิสัยการเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกสุขลักษณะ หรืออาจสัมพันธ์อยู่กับอาชีพ

การประสานจิตกับกายแบบเทร็กเกอร์เวิร์คนั้น ผู้ป่วยจะนอนอยู่บนโต๊ะ และผู้ให้การบำบัดจะต้องอยู่ในภาวะที่มีสมาธิและผ่อนคลาย จะใช้แสงไฟ และการเคลื่อนไหวแบบที่ไม่ทำให้เกิดความบอบช้ำ เพื่อช่วยกำจัดแบบแผนทางกายและจิตที่เก็บสั่งสมอยู่ในลึกๆ ของร่างกาย

การสื่อสารที่เชื่อมความคิดจิตใจระหว่างผู้ป่วยกับผู้ให้การบำบัด คือสิ่งสำคัญของเทร็กเกอร์เวิร์ค ผู้ให้การบำบัดจะสามารถติดต่อกับผู้ป่วยได้ในระดับลึกขณะที่ทำงานอยู่ในภาวะที่มีสมาธิและผ่อนคลาย ภาวะนี้ ดร.เทร็กเกอร์ เรียกว่า “การเชื่อมต่อถึงกัน”(Hook-up)

ในระหว่างการบำบัดผู้ป่วยจะสวมชุดว่ายน้ำ นอนอยู่นิ่งๆ โดยที่ผู้ให้การบำบัดจะจับแขนขาและลำตัวของผู้ป่วยให้เคลื่อนไหวไปอย่างมีจังหวะเบาๆ เช่น การเขย่าหรือโล้ไปมาโดยไม่ออกแรงถ้าไม่จำเป็น ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าตนเองสามารถเคลื่อนไหวแต่ละส่วนของร่างกายได้เองอย่างเสรีไม่ต้องใช้ความพยายามและเป็นไปอย่างนุ่มนวล ซึ่งการนวดแบบนี้จะไม่ใช้น้ำมัน

ดร.เทร็กเกอร์ เป็นผู้ที่คิดคำว่า “เมนทาสทิคส์” ขึ้นมาเอง โดยจะให้หมายถึง ยิมนาสติคทางความคิด (mental gymnastics) เขาได้พัฒนาระบบการเคลื่อนไหวตามลำดับนี้ขึ้นมา สามารถทำได้ง่ายเหมือนกับการร่ายรำโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม

หลังจากที่ได้ผ่านการบำบัดและสอนจากผู้ให้การบำบัดแล้ว การออกกำลังกายเช่นนี้ ปกติแล้วจะมอบหมายให้คนไข้กลับไปทำเองที่บ้านเป็นการบ้าน โดยที่จะสามารถสร้างความรู้สึกในการรับรู้เหมือนตอนที่ผู้ให้การบำบัดนวดหรือขยับแขนขาได้

ยิมนาสติคที่ต้องใช้ความคิดจะช่วยให้ได้ทบทวนถึงความรู้สึกเพลินสบายอย่างตอนที่ได้รับการบำบัดจากผู้ให้การบำบัดได้ และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นที่เนื้อเยื่อ แต่ละครั้งที่รู้สึกสบายความคิดนี้จะช่วยเสริมสร้างพลังให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีและถาวรยิ่งขึ้นและจะไม่เปลี่ยนกลับไปเป็นอย่างเดิมอีก

การนวดแบบเทร็กเกอร์จะส่งผลไปสู่การรับรู้โดยรู้สึกตัว แม้จะไม่เข้ารับการบำบัดแล้วก็คงยังก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อไปอีกได้

การเข้ารับการบำบัดด้วยเทร็กเกอร์เวิร์คมีประโยชน์ คือ ได้ผ่อนคลายอย่างลึกซึ้ง ร่างกายเคลื่อนไหวได้คล่องตัวขึ้น มีความคิดที่ชัดเจน มีพลังงานเพิ่มขึ้น การทรงตัวดีขึ้น อาการเรื้อรังของความเจ็บปวดหรืออาการขัดตึงกล้ามเนื้อจะหายหรือลดลงไป

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าการสัมมนาเชิงฝึกขั้นเบื้องต้นได้ที่สถาบันเทร็กเกอร์ทั่วสหรัฐฯ และในยุโรป ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝึกนี้ได้ที่สถาบันฯ ตามที่อยู่ดังนี้
Trager Institute
33 Millwood
Mill Valley CA 94941-1891
USA.

มีการตีพิมพ์เรื่องราวเกี่ยวกับเทร็กเกอร์เวิร์คที่เป็นลายลักษณ์อักษรออกมาค่อนข้างน้อย แต่มีหนังสือเล่มหนึ่งที่พอจะหาซื้อมาอ่านได้ของ ดร.มิลตัน เทร็กเกอร์ คือหนังสือที่มีชื่อเรื่องว่า Trager Mentastics: Movement as a Way to Agelessness

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า