เป็นโรคหนึ่งในกลุ่ม atopic disease ซึ่งได้แก่ asthma, allergic rhinitis และ atopic dermatitis
ลักษณะทางคลินิก แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
1. Infantile atopic dermatitis (Infantile eczema) เริ่มเป็นอายุ 2 เดือน และมักหายไปเมื่ออายุประมาณ 2 ปี lesion มักเป็นที่บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะที่แก้ม นอกนั้นอาจพบบริเวณหนังศีรษะ คอ ตามตัวและบริเวณ extensor surface ของแขนขา ผื่นแดงคัน มี papule, vesicle, oozing และตกสะเก็ด ต่อมาผื่นจะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นคล้ำขึ้น ผื่นดังกล่าวจะเป็นๆ หายๆ โดยมากอาการจะดีขึ้นเมื่อผู้ป่วยอายุประมาณ 2 ปี แต่มีบางรายที่ยังคงมีอาการไปจนถึงวัยเด็กโต
2. Childhood atopic dermatitis (childhood eczema) มักพบใน อายุ 4-10 ปี lesion พบมากบริเวณข้อพับแขนขา อาการจะเป็นเรื้อรังกว่าในระยะเด็กเล็ก ลักษณะเป็น papule, scale เริ่มมี lichenification และคันมาก ส่วนใหญ่ อาการจะหายไปภายในอายุ 8-12 ปี ถ้ายังไม่หายในอายุนี้ โอกาสที่จะหายขาดมีน้อย แต่ความรุนแรงของโรคมักจะลดลง
3. Adolescent or Adult atopic dermatitis (Adolescent eczema) เกิดขึ้นในช่วงอายุ 12-20 ปี หรือมีอาการต่อมาจากระยะเด็กโต อาการคล้ายกับในระยะ childhood แต่ lichenification หนาขึ้น สีน้ำตาลคล้ำ มีรอยเกาและรอยถลอก มักพบที่บริเวณข้อพับแขนข้อพับขา และต้นคอ บริเวณใบหน้าก็อาจพบได้ โดยอาจจะมีผื่นหนารอบๆ ตา หรือรอบๆ ปาก อาการในระยะนี้จะเป็นเรื้อรัง
การรักษา
1. แนะนำให้หลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่ส่งเสริมให้เกิดอาการมากขึ้น ได้แก่ สิ่งต่างๆ ที่ระคายเคืองผิวหนัง เช่น ผ้าขนสัตว์ สัตว์เลี้ยงหรือของเล่นทำด้วยขนสัตว์ สบู่ ผงซักฟอก อาหารบางชนิด เหงื่อ การติดเชื้อ เป็นต้น
2. ให้การดูแลรักษาเช่นเดียวกับใน dermatitis ทั่วไป กล่าวคือ ใน ระยะ acute ใช้ wet dressing ในระยะเรื้อรังใช้ steroid cream ทา ถ้าผิวหนังหนามากอาจต้องผสม keratolytic ointment ร่วมด้วย
3. Antihistamine รักษาอาการคัน
4. ยาปฏิชีวนะ ในรายที่มีโรคติดเชื้อแทรกซ้อน
5. ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจให้ prednisolone รับประทานในระยะ
เวลาสั้นๆ
ที่มา:อารียา เทพชาตรี