สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

น้ำทะเลบำบัดเพื่อสุขภาพ

น้ำทะเลบำบัด(Thalassotherapy)
ว่ากันว่าในท้องทะเลเป็นที่ที่สิ่งมีชีวิตอุบัติขึ้นเป็นครั้งแรก ด้วยการเรียงตัวทางเคมี ที่มีคุณสมบัติในการถ่ายทอดลักษณะการเรียงตัวของโมเลกุลต่อไป เท่ากับเป็นการสืบเผ่าพันธุ์ แรกทีเดียวเผ่าพันธุ์นี้ก็อยู่ในรูปของดีเอ็นเอ หรือกรดดีอ๊อกซีไรโลนิวคลีอิค(Deoxyribonucleic Acid) ซึ่งเพิ่งจะมีนักชีววิทยาโมเลกุลเสนอว่า น่าจะเป็นอาร์เอ็นเอ(Ribonucleic acid)มากกว่า เพราะมีความคล่องตัวกว่า แต่ประเด็นสำคัญมิได้อยู่ที่ตรงนั้น แต่อยู่ที่ว่า สถานที่ที่สิ่งมีชีวิตถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อสี่พันล้านปีก่อนคือในท้องทะเล ในเวลาต่อมา พัฒนาการของสิ่งมีชีวิตก็ยังคงเกิดขึ้นในทะเล จนมีขึ้นมาหลายชนิดหลายตระกูล และเพิ่งมีบางชนิดที่อพยพขึ้นมาแตกสาขาบนบกเมื่อสักพันล้านปีมานี้เอง

ท้องทะเลจึงได้ชื่อว่า เป็นสถานที่ที่เอื้ออำนวยต่อชีวิต และสุขภาพ ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายรวมทั้งมนุษย์ด้วย

น้ำทะเลบำบัด จึงเป็นหนทางหนึ่งในการน้ำทะเลเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยทั่วไปแล้วก็ใช้เพื่อชุบความเป็นหนุ่มเป็นสาวกระชุ่มกระชวยกันขึ้นมาใหม่ และเชื่อกันว่าน้ำทะเลสามารถใช้รักษาโรคต่างๆ ได้มากมาย เช่น ข้ออักเสบ รูมาติซึ่ม ไซแอ็ตทิก้า(Sciatica)หรือโรคปวดเส้นประสาทส่วนที่เริ่มต้นตังแต่ต้นขาเรื่อยลงไปถึงปลายเท้า โรคที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ระบบหมุนเวียนโลหิตที่ผิดปกติ โรคที่เกี่ยวเนื่องจากความเครียด อาการกระดูกแตก โรคผิวหนัง เช่น ฮ่องกงฟู้ท และโรคเรื้อนกวาง เป็นต้น

ในน้ำทะเลมีแร่ธาตุชนิดต่างๆ มากมายไม่ต่างอะไรกับโลหิตของคนเรา น้ำทะเลจึงเปรียบเสมือนโลหิต ซึ่งจะบำรุงเซลล์ ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างแข็งขันดี ซึ่งเป็นการยืนยันจากผู้สนับสนุนการใช้น้ำทะเลในการบำบัดอาการป่วย

น้ำทะเลบำบัด ถูกนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของวารีบำบัดหรือไฮโดรเธราพี แต่ก็มีการแยกออกกันเป็นคนละส่วนในบางตำรา การใช้น้ำทะเลในการรักษาอาการป่วยก็ทำกันมานานกว่าพันๆ ปีแล้ว ต่อมาในยุควิคทอเรีย คือสมัยของพระนางวิคทอเรีย อเล็กซานดริน่าของอังกฤษก็ได้เฟื่องขึ้นมาก มีสถานตากอากาศริมชายฝั่งเกิดขึ้นมามากมายทั่วยุโรป โดยเฉพาะยุโรปทางตอนใต้ ปัจจุบันตามริมฝั่งทะเลทางตอนใต้ของฝรั่งเศส และในอิตาลีก็ยังมีการใช้น้ำทะเลเพื่อรักษาอาการป่วยรวมทั้งเพื่อความงามเปิดบริการกันอยู่ ส่วนน้ำทะเลที่ขึ้นชื่อลือชาอีกแห่งหนึ่งคือ น้ำจากทะเลตายหรือเดด ซี(Dead Sea) ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เดดซี ไม่ได้เป็นทะเล แต่เป็นทะเลสาบ แต่เนื่องจากอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลลงไปอีกมากทั้งยังมีแร่ธาตุสูงด้วย

ว่ากันว่า พระนางคลีโอพัตราผู้เลอโฉมของอียิปต์ ก็บำรุงความงามด้วยการนำน้ำจากเดดซีมาแช่อาบเหมือนกัน

ในการรักษาโรคต่างๆ ด้วยการใช้น้ำทะเลนั้น มีทั้งชนิดที่ซับซ้อนและแบบง่ายๆ ที่สามารถทำได้เอง ซึ่งในความเป็นจริงการทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยก็เพียงแต่ไปเดินที่ชายหาดแล้วรับไอทะเลและโอโซนที่เกิดจากการซัดของคลื่นก็สามารถทำได้เช่นกัน

มีวิธีการหลายอย่างตามสถานตากอากาศที่ให้บริการน้ำทะเลบำบัดหรือธาลาสโซเธราพี เป็นต้นว่า นำน้ำทะเลมาต้มจนมีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิของร่างกายคนเรา แล้วฉีดลงที่ตัวผู้มารับการรักษาโดยใช้แรงอัดความดันสูง หรือในบางกรณีอาจฉีดลงที่สะโพก ต้นขาและก้น เพื่อเป็นการกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิต และในบางกรณีก็ฉีดทั่วตัว แบบนี้จะให้ผู้เข้ารับการรักษานั่งอยู่ในอ่างน้ำวนแบบจากุสซี

ตามสถานตากอากาศในยุโรปที่มีบริการน้ำทะเลบำบัด ยังมีวิธีการบำรุงร่างกายที่ซับซ้อนและแปลกออกไปอีก คือ เอาสาหร่ายมาบดผสมกับน้ำแล้วพอกร่างกายเอาไว้แล้วใช้แผ่นพลาสติกพันห่อไว้ แล้วคลุมด้วยผ้าห่มอีกที ว่ากันว่าจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างดีและมีประโยชน์ต่อผิวและการหมุนเวียนโลหิตด้วย

ตามสถานตากอากาศในฝรั่งเศสที่มีบริการน้ำทะเลบำบัดที่มีราคาแพงมากจนขึ้นชื่อ จากคำแนะนำบอกว่าที่อิตาลีจะถูกกว่ามาก แต่ก็ยังนับว่าสูงสำหรับคนทั่วไป ดังนั้น วิธีการใช้น้ำทะเลบำบัดด้วยตัวเองก็โดยวิธีเดินในน้ำทะเล โดยลุยลงไปให้ถึงต้นขา แล้วเดินลุยไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย การว่ายน้ำหรือแช่น้ำทะเลก็สามารถทำได้เช่นกัน หรือเพียงแค่แช่น้ำที่ใส่เกลือก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่เมื่อเลิกแช่แล้วจะต้องอาบน้ำล้างให้สะอาด ทางที่ดีควรจะอาบน้ำโดยสลับน้ำอุ่นกับน้ำเย็นเพื่อเป็นการกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิต และสิ่งที่มีควบคู่มากับน้ำทะเลบำบัด ก็คือการใช้โคลนบำบัด

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า