สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

การเยียวยาด้วยน้ำกุหลาบ(Rose-water)

การเยียวยานอกระบบด้วยน้ำกุหลาบนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่การเยียวยารักษาโรคเพียงอย่างเดียว แต่กลับเป็นเรื่องของการรักษาความงามประกอบเข้ามาด้วย แต่บางคนก็บอกว่าสุขภาพกับความงามเป็นของคู่กัน หากสุขภาพดีก็จะมีความงามไปด้วยน้ำมันกุหลาบ

น้ำกุหลาบ มีคุณสมบัติในการสร้างความสดชื่น ช่วยบำรุงผิว แก้ผิวแตกแห้งกร้าน ทำให้ผิวกระชับไม่หย่อนยาน หรือจะใช้เป็นน้ำยาล้างผิวก็ได้ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

การใช้น้ำกุหลาบยังต้องมีส่วนผสมอย่างอื่นประกอบเข้าไปด้วย แต่สำหรับน้ำกุหลาบล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นผสม สามารถใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากเพื่อเพิ่มความสดชื่น ใช้หลังสระผมเพื่อขจัดรังแค หรือจะนำมาล้างหรือแช่มือในเวลาที่รู้สึกเมื่อยหรือปวดมือก็ได้

วิธีการทำน้ำกุหลาบสามารถทำได้ง่ายด้วยการนำน้ำมันสกัดจากกุหลาบ หรือที่เรียกว่า เอสเซนเชียล ออย กุหลาบ หรือ Rose essential oil มา 30 มิลลิลิตร ผสมกับน้ำกลั่น 4.5 ลิตร เขย่าให้เข้ากันดี แล้วนำไปเก็บไว้ในที่เย็นๆ ไม่ให้โดนแสงแดด เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำกุหลาบไว้ใช้รักษาอาการป่วยและบำรุงความงามแล้ว

ว่ากันว่า มีประวัติการใช้น้ำกุหลาบกันมามากว่า 2,000 ปีแล้ว น้ำกุหลาบเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางเพื่อการบำรุงผิวหลายอย่าง ตั้งแต่สมัยปี ค.ศ.150 แพทย์ชาวกรีกที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ชื่อ เกเลน ก็เคยทำครีมจากน้ำกุหลาบเพื่อทำความสะอาด ซึ่งมีส่วนประกอบในครีมนี้ คือ น้ำมันมะกอก น้ำและขี้ผึ้ง และใส่น้ำกุหลาบเพื่อให้มีกลิ่นหอมเมื่อทาลงกับผิว และเมื่อน้ำระเหยออก ก็จะทำให้รู้สึกเย็น จึงเรียกครีมชนิดว่า ครีมเย็น หรือโคลด์ครีม

สูตรยาหรือเครื่องสำอางรักษาผิว
สูตรแรก เป็นน้ำยาที่ใช้สำหรับกำจัดรอยเหี่ยวย่นและหย่อนยานของผิวทำให้ผิวกระชับขึ้น มีส่วนผสม คือ
1. น้ำกุหลาบ 17 ช้อนโต๊ะ
2. แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 5 ช้อนโต๊ะ
3. กลีเซอรีน 1 ช้อนโต๊ะ
4. วิทช์ เฮเซล(Witch hazel) 10 ช้อนโต๊ะ

สามารถหาซื้อส่วนผสมดังกล่าวได้ไม่ยาก แต่แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 100% ก็คงยากสักหน่อย เพราะส่วนใหญ่จะเป็นชนิด 70% หรือ 90%เสียมากกว่า แต่ก็พอใช้แทนกันไปได้

ที่หาได้ยากอีกอย่างก็คงเป็น วิทช์ เฮเซล ซึ่งพืชสมุนไพรชนิดนี้ได้รับความนิยมมาก มีถิ่นกำเนิดในอเมริกา และได้นำไปปลูกตามที่ต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรปเริ่มนำเข้าไปตั้งแต่สมัยปี ค.ศ.1735 และใช้เป็นส่วนผสมของยากลางบ้านหลายขนาน เช่น ใช้ทาแก้เส้นเลือดขอด เป็นต้น

วิทช์ เฮเซล จะใช้เฉพาะตรงส่วนใบ ที่มีขายอยู่ตามร้านขายอาหารสุขภาพ หรือร้านจำหน่ายเครื่องหอมเพื่อรักษาโรคก็น่าจะมีจำหน่ายเป็นใบตากแห้ง แต่ก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน

วิธีทำก็คือ ให้เอาแอลกอฮอล์กับกลีเซอรีนมาผสมให้เข้ากัน แล้วจึงเติมน้ำกุหลาบกับวิทช์ เฮเซลลงไป เอาใส่เครื่องบดผสมปั่นให้เข้ากันดี ก็จะได้เครื่องบำรุงผิวอย่างดี เมื่อใช้ก็เทใส่สำลีแล้วนำมาเช็ดที่ใบหน้าจะทำให้รู้สึกว่าผิวสดชื่นขึ้น

สูตรที่ง่ายกว่า คือ ผสมน้ำกุหลาบกับกลีเซอรีนเท่านั้น ก็จะได้ครีมสำหรับทามือเพื่อป้องกันหรือแก้ผิวที่แตกหรือแห้งกร้าน

เครื่องสำอางจากน้ำกุหลาบขนานที่ 3 คือน้ำยาล้างผิว ควรใช้เป็นประจำ วันละ 2 ครั้ง

ส่วนผสมของครีมล้างหน้าจากกุหลาบมีดังนี้
น้ำมันแอลมอนด์ 4 ช้อนโต๊ะ
ขี้ผึ้ง 20 กรัม
น้ำกุหลาบ 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ เอาน้ำมันแอลมอนด์ใส่ชามอ่าง แล้วตั้งลงในกระทะที่มีน้ำ ต้มน้ำจนขี้ผึ้งละลายผสมกับน้ำมันแอลมอนด์ให้เข้ากันดี แล้วใส่น้ำกุหลาบทีละหยด ตีให้เข้ากันดี แล้วนำส่วนผสมที่ได้บรรจุขวด เก็บไว้ในที่เย็น

น้ำกุหลาบลาเวนเดอร์ ใช้เป็นน้ำหอมเพื่อความหอมสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
ส่วนผสม คือ
น้ำกุหลาบ 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันลาเวนเดอร์ 1 ช้อนชา
แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 285 มิลลิลิตร

วิธีทำ รินน้ำมันลาเวนเดอร์กับน้ำกุหลาบใส่ลงในแอลกอฮอล์ เขย่าให้เข้ากันดี แล้วรินใส่ขวดเก็บไว้ในที่เย็นๆ มืดๆ ทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 เดือนเป็นอย่างน้อย แล้วค่อยนำมาใช้ ขณะที่ยังไม่ได้นำมาใช้ให้เขย่าขวดทุกวัน

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า