สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

ต้อเนื้อ/ต้อลิ้นหมา(Pterygium)

พบโรคนี้ได้มากในประเทศเขตร้อนที่ค่อนข้างแห้งแล้งและมีฝุ่นลมจัด พบเป็นได้ในคนทุกเพศทุกวัย แต่พบเป็นมากในผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-55 ปีต้อเนื้อ

สาเหตุ
ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุของการเกิดโรคที่แท้จริง แต่มักเกิดจากเยื่อบุตาเสื่อมและหนาตัวขึ้น ปัจจัยสำคัญของการเกิดโรคนี้ คือ การถูกแสงแดดเป็นประจำ และอาจทำให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกันจากการถูกลม ฝุ่น ควัน ความร้อน สารเคมี และมลพิษทางอากาศเป็นประจำ ซึ่งมักจะพบโรคนี้ได้บ่อยให้ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ถูกแดด ลม ฝุ่น เป็นประจำ ส่วนผู้ที่มีอาชีพต้องสัมผัสกับสิ่งระคายเคืองตาอื่นๆ เช่น คนในโรงงาน คนทำครัว อาจพบได้เป็นส่วนน้อย

มีความเชื่อว่าปัจจัยทางกรรมพันธุ์อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดต้อเนื้อ ซึ่งพบว่าผู้ป่วยบางรายมีประวัติพ่อแม่หรือคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ด้วย

อาการ
ที่บริเวณตาขาวชิดตาดำของผู้ป่วยจะมีแผ่นเนื้อเยื่อสามเหลี่ยมสีเหลืองๆ อยู่ ส่วนใหญ่มักเกิดที่ด้านหัวตาเพราะมีโอกาสกระทบกับสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้เกิดต้อเนื้อมากกว่าหางตาประกอบกับมีหลอดเลือดมาเลี้ยงในบริเวณนี้มากกว่า ส่วนที่เกิดบริเวณหางตามักพบได้น้อย

บางครั้งอาจเห็นหลอดเลือดขยายมีลักษณะสีแดงเรื่อๆ หลังจากถูกลมถูกแสงมากๆ หรือนอนดึก

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะไม่รู้สึกมีอาการผิดปกติแต่อย่างใด นอกจากอาจจะมีการอักเสบเคืองตา น้ำตาไหล ตาแดง หรือปวดเล็กน้อยได้บ้างในบางครั้ง

ต้อเนื้ออาจยื่นเข้าไปถึงกลางตาดำทำให้บังสายตา ตามัว มองไม่ถนัดได้ถ้าปล่อยให้เป็นอยู่นานเป็นแรมเดือนแรมปีโดยไม่รักษา หรืออาจมีต้อเนื้อที่หัวตาและหางตาพร้อมกันในบางราย หรืออาจจะเป็นต้อเนื้อกับตาเพียงข้างเดียวหรืออาจจะเป็นทั้งสองข้างก็ได้

สิ่งตรวจพบ
มักตรวจพบว่าบริเวณหัวตาของผู้ป่วยมีแผ่นเนื้อเยื่อสามเหลี่ยมสีเหลืองๆ อยู่ หรืออาจมีที่หางตาร่วมด้วยในบางราย

ภาวะแทรกซ้อน
ส่วนใหญ่มักจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ นอกจากจะทำให้สายตามองไม่ถนัดจากการบังของต้อเนื้อที่ยื่นเข้าไปปิดตาดำจนมิด ต้อเนื้อจะค่อยๆ งอกลุกลามขึ้นช้าๆ จึงใช้เวลานานหลายปีกว่าจะเกิดภาวะนี้ขึ้น

การเกิดแผลเป็นที่กระจกตาอาจพบในรายที่เป็นมากและปล่อยให้มีการอักเสบบ่อยๆ จนต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตามักพบได้น้อยมาก

การรักษา
1. ไม่ต้องให้การรักษาใดๆ ถ้ายังไม่มีอาการอักเสบและต้อเนื้อยังไม่ยื่นเข้ากระจกตา เพื่อป้องกันมิให้ต้อเนื้อลุกลามควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ลม ฝุ่น และสิ่งระคายเคืองตาต่างๆ ควรสวมแว่นตาดำที่สามารถกันแสงอัลตราไวโอเลตได้ถ้าต้องออกกลางแดด

2. ให้ใช้ยาหยอดตาเพื่อลดการอักเสบเป็นครั้งคราวถ้ามีอาการอักเสบหรือเคืองตา แพทย์อาจให้ยาหยอดสตีรอยด์ถ้าการรักษายังไม่ได้หรือมีอาการอักเสบมากขึ้น ให้หยุดใช้ยานี้เมื่ออาการดีขึ้นเพราะอาจทำให้เป็นต้อหินเรื้อรังได้ถ้าใช้ติดต่อกันนานๆ

3. ควรไปโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดลอกออกเมื่อต้อเนื้อยื่นเลยขอบตาดำเข้าไปสัก 3-4 มม. การผ่าตัดต้อเนื้อทำได้ง่ายภายในเวลาประมาณ 15 นาที เพียงแต่ฉีดยาชาเฉพาะที่ตรงบริเวณที่เป็นแล้วทำการลอกออกโดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล

พบได้เป็นส่วนน้อยในผู้ที่ลอกต้อเนื้อแล้วกลับมาเป็นซ้ำอีก ปัจจุบันการใช้รังสีบีตาในการรักษาสามารถป้องกันการคืนตัวของต้อเนื้อได้ หรือใช้ยาบางชนิดหยอดหลังผ่าตัดซึ่งจะได้ผลดีมากแต่ก็มีข้อห้ามว่าผู้ป่วยไม่ควรถูกลม แดด ฝุ่น และความร้อน และควรจะทำการผ่าตัดลอกต้อซ้ำอีกในรายที่มีต้อเนื้อกำเริบหลังผ่าตัด ซึ่งมักจะทำให้หายขาดจากโรคได้

ข้อแนะนำ
1. ตรงขอบตาดำด้านหัวตาหรือหางตาอาจมีตุ่มนูนสีขาวเหลืองรูปสามเหลี่ยมหรือหลายเหลี่ยมเล็กๆ เกิดขึ้น ซึ่งมักเป็นที่ตาทั้งสองข้าง เรียกว่า ต้อลม มีสาเหตุการเกิดเช่นเดียวกับต้อเนื้อ และมักไม่ลุกลามเข้าตาดำจึงไม่ต้องให้การรักษาแต่อย่างใด แต่ถ้ามีอาการอักเสบหรือเคืองตาก็ให้ใช้ยาหยอดตาแก้อักเสบเช่นเดียวกับต้อเนื้อ

แพทย์มักจะไม่แนะนำให้ทำการผ่าตัดลอกออกเพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นไม่สวยงามและมักจะกำเริบขึ้นมาใหม่ได้อีก

2. ไม่มีอันตรายแต่อย่างใดทั้งในต้อเนื้อและต้อลม และไม่มียาที่ใช้กัดให้ต้อเนื้อหลุดได้ ผู้ป่วยไม่ควรซื้อยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสตีรอยด์มาใช้เองเพราะอาจกลายเป็นต้อหินทำให้ตาบอดได้หากใช้ติดต่อกันนานๆ

การป้องกัน
หลีกเลี่ยงการถูกแดด ถูกลม ถูกฝุ่น และสิ่งระคายเคืองตาอื่นๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิดต้อลมและต้อเนื้อ ควรสวมแว่นตาดำที่สามารถกันแสงอัลตราไวโอเลตได้ถ้าต้องออกไปกลางแดด

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า