สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

จิตบำบัดไพรมัลเธราพี(Primal Therapy)

เป็นจิตบำบัดหรือไซโคเธราพี(psychotherapy) ในบางครั้งก็เรียกกันผิดๆ ว่า ไพรมัล สครีม เธราพี(Primal Scream Therapy) เป็นวิธีการที่จะต้องประสบกับความเจ็บปวดที่เก็บกักไว้แล้วปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดอั้นนั้นออกมา

ผู้พัฒนาไพรมัล เธราพีขึ้นมา คือ ดร.อาร์เธอร์ จานอฟ(Arthur Janov) ในปี ค.ศ.1970 เขาได้เขียนหนังสือชื่อว่า Primal Scream ออกมา โดยจิตบำบัดไพรมัลในสมัยนี้ก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปจากสมัยเมื่อปี ค.ศ.1970 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีสถาบันวิจัยเกิดขึ้นหลายแห่งทั่วโลกที่ได้นำเอาวิธีการนี้ไปพิจารณาตรวจสอบอย่างพิถีพิถัน จากการศึกษาวิเคราะห์ต่างๆ ก็ได้แสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยมีอัตราการเต้นของหัวใจและสิ่งที่บอกถึงการทำงานของร่างกายที่สำคัญๆ เช่น ความดันโลหิต ชีพจร การหายใจ ฯลฯ มีการปรับปรุงดีขึ้น เมื่อได้รับการบำบัดด้วยวิธีการไพรมัล เธราพีนี้

พื้นฐานของไพรมัล เธราพี มาจากแนวคิดที่ว่า คนทุกคนล้วนต่างเคยผ่านเหตุการณ์ที่สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวมาแล้วทั้งนั้น เริ่มตั้งแต่ตอนที่คลอดออกมาจากครรภ์มารดา และเหตุการณ์อื่นๆ ที่มีสืบเนื่องเรื่อยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ความเจ็บปวดจากเหตุการณ์บางครั้งก็มากเกินกว่าที่จะซึมซับเอาไว้ได้ หรือในช่วงเวลาที่มันเกิดก็มีความเจ็บปวดเกินกว่าที่รับได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จำเป็นที่จะต้องสะกดและเก็บมันเอาไว้จัดการหรือรับมือกับมันในอนาคต

ดร.จานอฟรู้สึกว่า การเก็บหรือสะกดอารมณ์เป็นเพชฌฆาตหรือฆาตกรหมายเลข 1 ของโลกในปัจจุบัน ความเจ็บปวดที่สั่งสมเอาไว้ที่สืบเนื่องมาจากการขาดความรัก จากการที่ความต้องการทั้งหลายไม่ได้รับการตอบสนองหรือตอบสนองได้ไม่ดีเท่าที่ควร และจากเหตุผลอื่นๆ อีกมากมาย ที่สามารถก่อให้เกิดปัญหาแก่สุขภาพร่างกายอย่างร้ายแรงได้ การสะกดกลั้นนี้สามารถแสดงออกมาให้เห็นในรูปที่พลิกโฉมออกไปเป็นความป่วยไข้หลายชนิดต่างๆ กัน รวมทั้งโรคมะเร็ง โรคหัวใจ เบาหวาน ความกระวนกระวาย ความดันโลหิตสูง แผลในกระเพาะอาหาร อาหารหดหู่ซึมเศร้า ประสบความยุ่งยากทางเพศ การนอนหลับผิดปกติ และโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ อีกมากมาย

ดร.จานอฟ พบว่า การให้คนไข้กลับไปรื้อฟื้นประสบการณ์ที่ทำให้เกิดความรู้สึกท่วมท้นอย่างเก่าขึ้นมาใหม่ ให้ทบทวนถึงความรู้สึกหรือความต้องการที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์นั้นแต่ละตอนๆ ทีละนิดละน้อยจะกระทั่งประสบการณ์นั้นละลายหายไปจะสามารถพลิกกระบวนการของความรู้สึกที่ถูกเก็บกดเอาไว้ได้

คนไข้จะถูกพาย้อนกลับเข้าไปถึงจิตใต้สำนึกระหว่างการบำบัดรักษา เพื่อย้อนกลับไปมีชีวิตในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะหลังสุดเสียก่อน แล้วค่อยหยั่งลึกลงไปจนถึงเวลาตอนที่เกิดหรือคลอดออกมา ตลอดช่วงเวลานับเดือน หรืออาจต้องใช้เวลาเป็นปีๆ เหตุการณ์ที่เจ็บปวดทรมานทั้งหลายจะถูกกำจัดออกไปทีละชั้นๆ ในการบำบัดเยียวยาแบบนี้การร้องไห้เป็นสิ่งที่จำเป็นและจะขาดเสียมิได้เป็นอย่างยิ่ง

ภายในเวลาอันสั้นจิตบำบัดไพรมัลสามารถลดหรือกำจัดความป่วยไข้ทางกายและทางจิตได้หลายอย่าง โดยผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะถาวร กระบวนการนี้ทำให้ผู้รับการบำบัดมีความรู้สึกละเอียดอ่อนขึ้น โดยที่ร่างกายจะไม่เหมือนกับคนแปลกหน้าสำหรับความคิดจิตใจของตัวเองอีกต่อไป

การบำบัดโดยปกติแล้ว ผู้ป่วยจะเริ่มเข้ารับการบำบัดตามลำพังทุกวันเพื่อเปิดระบบการป้องกันตัวเอง เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ซึ่งผู้ให้การบำบัดแบบไพรมัลเชื่อว่า คนเราจะสร้างระบบป้องกันตัวเองขึ้นมาคอยระวังและปกป้องความรู้สึกที่เก็บฝังเอาไว้ในส่วนลึก และจะพัฒนาขึ้นมาสำหรับแต่ละเหตุการณ์ที่ได้รับความเจ็บปวดรวดร้าวที่ไม่สามารถจะรับหรือจัดการกับมันได้

มีการเปิดระบบการป้องกันในแบบจิตบำบัดไพรมัลได้สองแบบ แบบแรกคือ หาระบบการป้องกันให้พบ แล้วจึงค่อยทำให้มันสลายลงไป แบบที่สอง คือ ผู้ให้การบำบัดจะชักนำผู้ป่วยไปให้ถึงความรู้สึกที่จะปลดปล่อยระบบป้องกันนั้นออกมา

ผู้ป่วยจะต้องไปเข้ากลุ่มหลังจากที่รับการบำบัดโดยลำพังมาแล้วเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ในกลุ่มหนึ่งๆ จะประกอบด้วยสมาชิก 30-40 คน ซึ่งจะมาพบปะกันสัปดาห์ละครั้งเป็นเวลา 6-12 เดือน หลังจากบำบัดได้ 6 เดือน ก็จะมีการกำหนดเวลาการบำบัดโดยลำพังอีก 1 สัปดาห์ เพื่อเป็นการติดตามความก้าวหน้า แล้วจึงกลับไปเข้ากลุ่มอีกครั้งหนึ่ง เมื่อสิ้นสุดเวลา 12 เดือนแล้ว หากมีความจำเป็นก็อาจกำหนดเวลาการบำบัดโดยลำพังเพิ่มเติมอีก

ผู้ให้การบำบัดต้องเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างเหมาะสม และมีประสบการณ์ในการจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากประสบการณ์ที่สร้างความเจ็บปวดทรมานของผู้ป่วยอาจจะถูกระบายถั่งโถมออกมาอย่างรวดเร็ว นักบำบัดที่ ดร.จานอฟฝึกสอนนั้นจำเป็นต้องผ่านกระบวนการเยียวยาบำบัดด้วยวิธีไพรมัลด้วยตัวเองมาก่อนแล้ว นอกเหนือจากการศึกษาเป็นเวลา 2-3 ปี เขายังได้เตือนถึงอันตรายของผู้ให้การบำบัดรักษาด้วยวิธีนี้ที่ได้รับการฝึกฝนมาไม่พอเอาไว้ด้วย

สามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับไพรมัล เธราพี อ่านได้จากหนังสือของ ดร.จานอฟ ที่มีชื่อเรื่องว่า The New Primal Scream: Primal Therapy 20 Years On ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านขายหนังสือทั่วไป

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า