สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

คริสตัลบำบัด(Crystal Therapy)

หรือหินผลึกบำบัด คริสตัลเธราพี คริสตัลฮีลลิ่ง(Crystal Healing) ซึ่งบางครั้งก็เรียกว่า การรักษาโรคโดยใช้อัญมณี หรือ Gem Therapy เป็นการใช้ผลึกควอร์ตซ์ อัญมณี หรือผลึกชนิดอื่นๆ หรือที่เรียกว่า คริสตัล เพื่อวัตถุประสงค์ในการบำบัดรักษาโรค และยังมีการใช้หินและคริสตัลร่วมกับการสร้างความสมดุลของจักรา และการบำบัดรักษาโดยใช้สีด้วย

เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าคริสตัลและอัญมณีทั้งหลายมีพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าเหมือนกับร่างกายของมนุษย์ การกระจายความสั่นสะเทือนและความถี่ของคริสตัลและอัญมณีต่างๆ จะมีศักยภาพมากในการส่งผลกระทบต่อร่างกาย ความคิดจิตใจ และวิญญาณ

มีผู้คนที่ติดใจหรือหลงเสน่ห์ความงามของหิน ผลึกและอัญมณีต่างๆ มาโดยตลอดในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราอยากจะหยิบเอาหินหรือผลึกที่สวยงามขึ้นมาพกพาติดตัวไปด้วย และในที่สุดก็ได้รู้ว่าผลึกและหินบางชนิดมีศักยภาพในการสร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นกับร่างกายบางอย่าง โดยคุณสมบัติที่ลึกลับมักจะมีอยู่ในเพชรพลอยและหินมีค่า ซึ่งต่างก็เคยใช้ผลึกสำหรับการรักษาโรคมาแล้วทั้งนั้นในวัฒนธรรมยุคบุพกาลและวัฒนธรรมยุคที่มีอารยธรรมแล้ว ตลอดจนชนพื้นเมืองของอเมริกาเผ่าต่างๆ มากมาย

ในต้นทศวรรษที่ 1980 มีผู้คนสนใจผลึกกันเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐฯ โดยเริ่มมีการนำเอาผลึกและหินชนิดต่างๆ เข้ามาอยู่กับตัวในชีวิตประจำวัน บางชนิดก็ถูกนำมาสวมใส่ให้กับร่างกาย บางชนิดก็นำมาเก็บไว้ในบ้านเพื่อความสวยงามและสร้างผลกระทบทางอารมณ์ตามที่ปรารถนา

ส่วนประโยชน์ในด้านการรักษาและอื่นๆ นั้น สามารถนำความสั่นสะเทือนของพลังงาน และคุณสมบัติในการรักษาโรคมาใช้ได้หลายแบบ เช่น สวมใส่เป็นเครื่องประดับ เอาใส่กระเป๋าแล้วนอนลง เอาเก็บไว้ในห้องหรือในที่ทำงาน ผลกระทบที่ส่งออกมาก็จะทำให้รู้สึกสบายใจ ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากความเชื่อที่ว่า มันจะส่งผลดีให้แก่ตัวก็เป็นได้

โดยทั่วไปแล้ว ผลึกและอัญมณีต่างๆ จะถูกนำมารวมอยู่ในของอย่างพวกสร้อยคอ กำไลข้อมือ แหวน ต่างหู มงกุฎ เครื่องประดับศีรษะ เข็มขัด และกำไลข้อเท้า หรือจะนำมาใส่ถุงเล็กๆ แล้วแขวนเกี่ยวไว้กับตัวก็ได้ การสวมใส่เครื่องประดับที่เป็นอัญมณีเพื่อเปิดและเพิ่มการไหลเวียนของพลังงานในบริเวณที่สัมผัสโดยตรง หรือบริเวณใกล้เคียงจะต้องสวมอยู่เหนือเมอริเดียนพลังงานของร่างกาย ตรงจุดที่ตั้งของจักร หรือบริเวณใกล้ๆ กัน

เข้าใจกันว่า เมื่ออยู่ใกล้กับผลึกบางชนิดจะสามารถกระตุ้นอารมณ์ต่างๆ ขึ้นมาได้ เช่น ผลึกควอร์ตซ์สีกุหลาบเป็นหินชนิดที่นิยมกันว่ามีอำนาจในการรักษาบริเวณหัวใจ เมื่อนำไปไว้ในห้องต่างๆ ก็จะทำให้เกิดความคิดถึงความรักตัวเองและการอุปการะเลี้ยงดู ส่วนพลอยสีชมพูจะส่งเสริมการแสดงออกถึงความรักอย่างคึกคัก

การปิดกั้นพลังงานชีวิตที่สำคัญที่อยู่ในร่างกาย เป็นผลทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสรีระและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มากมาย อาจจะนำผลึกและอัญมณีมาใช้เพื่อกำกับการไหลเวียนของพลังงานข้างในและรอบๆ ร่างกายมนุษย์ให้เป็นระเบียบได้ ระบบพลังงานของร่างกายจะได้รับการฟื้นฟูไปสู่สมดุล ซึ่งจะทำให้ร่างกาย ความคิดจิตใจและวิญญาณประสานกลมกลืนกันด้วยดีเมื่อได้กำจัดสิ่งที่ปิดกั้นพลังงานและเพิ่มการไหลเวียนของพลังงานอย่างเสรี ชนิดของหินที่ใช้จึงสามารถกำกับให้จิตใจของคนเรามีความสงบ สร้างความมีชีวิตชีวา หรือก่อให้เกิดความรู้สึกมีแรงบันดาลใจคึกคักขึ้นมาได้

ศิลปะในการวางหินแบบโบราณ เพื่อทำให้การไหลเวียนของพลังงานสมดุลนั้น หมอจะเป็นผู้นำเอาผลึกและอัญมณีไปวางลงที่ส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ตรงกับจุดของจักร เช่น ใช้หินมาลาไคท์(หินสีเขียวซึ่งประกอบด้วยคอปเปอร์คาร์บอเนต)ไปวางที่ชายโครงบริเวณใต้ซี่โครงเพื่อดึงเอาอารมณ์ที่ถูกสะกดกลั้นเอาไว้ออกมาและจักรหัวใจก็จะได้เปิดออกได้

ก่อนที่จะใช้ผลึกและอัญมณีควรจะนำมาล้างเสียก่อน โดยเฉพาะถ้านำมาใช้เพื่อรักษาโรค เพราะผลึกและอัญมณีเหล่านี้สามารถสั่งสมเอาความสั่นสะเทือนและรอยพิมพ์จากบุคคลที่ได้สัมผัสมันมาก่อนเอาไว้ได้ แหล่งพลังงานต่างๆ เช่น เสียง แสง อารมณ์ ความคิด และสภาพแวดล้อมทางกายภาพสามารถทิ้งพลังงานของมันเอาไว้ในผลึกได้ หากคนที่เป็นเจ้าของผลึกนั้นเคยป่วยมาก่อนหรือมีความคิดในทางที่ร้ายมาก ความสั่นสะเทือนจากความคิดและความป่วยไข้เหล่านี้ก็อาจจะส่งผ่านมายังคนที่ใช้คนต่อไปได้ จึงต้องทำการล้างเสียก่อน

การล้างผลึกสามารถทำได้หลายวิธี รวมถึงการจุ่มผลึกและหินเหล่านี้ลงในน้ำผสมเกลือทะเล บรรจุใส่ไว้ในเกลือทะเล นำไปลนไฟหรือควัน หรือราดน้ำ หรือนำไปฝังดินสักระยะหนึ่ง

ส่วนใหญ่การใช้ผลึกจะเป็นการใช้ด้วยตนเอง แต่หมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้ก็มีอยู่มากเช่นกัน ผลึกและอัญมณีต่างๆ มีจำหน่ายทั่วไป ทั้งที่ร้านขายปลีกและที่มีให้สั่งซื้อทางไปรษณีย์ และมีหนังสือมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่มีวางจำหน่ายอยู่ตามร้านขายหนังสือ หรือสามารถหาอ่านได้ตามห้องสมุดทั่วไป

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า