เป็นจิตบำบัดแขนงหนึ่ง ที่มุ่งเพื่อให้ผู้รับการบำบัดได้ตระหนักรู้ตัว ได้เข้าใจตัวเองในฐานะที่เป็นบุคคลที่มีบุคลิกภาพและอื่นๆ รวมอยู่ด้วยกัน เพื่อช่วยขจัดความกระวนกระวายและความเครียดที่มีสาเหตุมาจากความบอบช้ำทางอารมณ์หรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอดีตสมัยที่ยังเป็นเด็ก และยังช่วยแก้ปัญหาในการเข้าสังคมด้วย
จุดมุ่งหมายสำคัญของเกสตัลท์เธราพี อยู่ที่การได้เป็นตัวของตัวเองอย่างอิสรเสรี ไม่ติดข้องกับบ่วงของอดีตหรือความปรารถนาของพ่อแม่ที่มีส่วนบีบบังคับให้หันเหไปจากที่ควร ซึ่งในบางครั้งพ่อแม่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะบีบบังคับ แต่กลับมีผลส่งทอดมาถึงลูกในเชิงบังคับได้
ค่านิยมในสังคมและสภาพแวดล้อมก็อาจมีส่วนกดดันทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเอง และอาจทำให้ไร้ความสุขได้
การทำให้ผู้รับการบำบัดเป็นอิสระจากอดีตไม่มานั่งคร่ำครวญเสียใจหรือเสียดายกับสิ่งที่มันผ่านไปแล้ว และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ดีสำหรับปัจจุบันและอนาคตคือจุดมุ่งหมายของการบำบัดด้วยวิธีนี้อีกอย่างหนึ่ง
เกสตัลท์ เป็นคำในภาษาเยอรมัน มีความหมายถึงผลรวม หรือทั้งหมด
เกสตัลท์เป็นปรัชญาแขนงหนึ่งที่มองว่าผลลัพธ์โดยส่วนรวมมีความสำคัญยิ่งกว่าส่วนย่อยแต่ละส่วนที่นำมารวมกัน โดยมีการพัฒนาและปรับใช้ในการศึกษาเชิงจิตวิทยา และต่อมาก็ได้ถูกนำมาใช้ในการสร้างกรรมวิธีในการบำบัดรักษาโรคทางจิตหรือทางใจอย่างหนึ่ง
ฟรีดริค เพิร์ลส์(Friedrich Perls) นักวิเคราะห์จิตชาวเบอร์ลินที่อพยพหนีนาซีมาอยู่อเมริกา เขาไม่ได้เป็นยิวแต่ทนพวกนาซีไม่ได้ ทำนองเดียวกับนักวิชาการมากมาย รวมทั้งนักวิชาการ นักปรัชญาผู้พัฒนาปรัชญาสาขาเกสตัลท์คนอื่นๆ ซึ่งเขาเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเกสตัลท์ขึ้นมาเป็นกรรมวิธีการบำบัดทางจิต
เพิร์ลส์เป็นผู้แต่ง “มนต์” ให้ใช้ท่องเพื่อสรุปหลักการของเกสตัลท์ เธราพี ให้เข้าใจง่ายขึ้นด้วย ซึ่งมีดังนี้
I do my thing and you do your thing.
I am not in this world to live up to your expectations
And you are not in this world to live up mine.
You are you and I am I,
And if by chance we find each other, it’s beautiful.
If not, it can’t be helped.
(คำแปล)
ฉันทำสิ่งที่ฉันต้องการตามแบบของฉัน ส่วนเธอก็ทำสิ่งที่เธอต้องการตามแบบของเธอ
ฉันมิได้เกิดมาเพื่อจะเป็นอย่างที่เธอคาดหวัง
และเธอก็มิได้เกิดมาเพื่อที่จะเป็นอย่างที่ฉันหวัง
เธอคือเธอ และฉันก็เป็นฉัน
หากว่าเราเข้าใจกัน นั่นก็เป็นสิ่งที่งดงาม
หากว่าเราไม่เข้าใจกัน ก็ช่วยอะไรไม่ได้
เกสตัลท์ เธราพี การทำเป็นกลุ่มจะได้ประโยชน์ดีกว่าการทำแบบตัวต่อตัว ซึ่งในขั้นแรกผู้ให้การบำบัดจะสอนให้ผู้รับการบำบัดได้รับรู้ถึงตัวของตัวเอง รู้ถึงการทำงานในแต่ละส่วนของร่างกาย พินิจไตร่ตรองร่างกายของตนเอง ต่อจากนั้นก็ให้ผู้รับการบำบัดเปิดเผยตัวเองออกมาเพื่อทำให้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
ผู้รับการบำบัดวิธีนี้ต้องใช้ภาษาเดียวกับกลุ่มบำบัดและกับผู้ให้การบำบัด เพราะไม่ได้เป็นการบำบัดในแบบกายภาพ
เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา