สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

การระบายอารมณ์แบบโซมาโต(Somato Emotional Release)

เป็นกระบวนการเยียวยาอาการป่วย เพื่อกำจัดผลกระทบที่ตกค้างจากบาดแผลในอดีตและประสบการณ์ในทางลบออกไปจากความคิดและร่างกาย

ดร.จอห์น อี. อัพเลดเจอร์(Upledger) กับ ดร.ซิฟ คาร์นี(Ziv Karni) นักวิจัยของแผนกไบโอเม็คคานิค ในอีสแลนซิง ของมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกันพัฒนาแนวคิดเรื่องการระบายอารมณ์แบบโซมาโตนี้ขึ้นมา และดร.เอ็ลเมอร์ กรีน แห่งมูลนิธิเมนนินเจอร์ เป็นผู้เสนอให้ใช้คำว่า การระบายอารมณ์แบบโซมาโต หรือ โซมาโตอีโมชั่นแนล รีลีส นี้ หลังจากที่ได้สังเกตการณ์งานของบุคคลทั้งสองเกี่ยวกับกระบวนการนี้

แนวคิดจากงานของอัพเลดเจอร์และคาร์นีที่พัฒนาขึ้นมีอยู่ว่า ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ หรือได้รับบาดเจ็บร่างกายของบุคคลจะเข้าจัดการพลังทางฟิสิกส์ที่ถูกร่างกายดูดซึมเข้าไปด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งใน 2 วิธี คือ

ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ อาจจะเริ่มกระจายพลังเหล่านี้ออกไปในทันที แล้วกระบวนการเยียวยาตามธรรมชาติก็จะเกิดตามมา หรือพลังทางฟิสิกส์ที่ร่างกายของบุคคลนั้นได้รับอาจจะถูกกักกันเอาไว้แทนที่จะระบายออกไป

หากร่างกายเก็บพลังพวกนี้เอาไว้ มันก็จะต้องปรับตัวให้เข้ากับภาวะที่มีพลังทางฟิสิกส์ที่ผิดปกติที่ผิดปกติกักเก็บเอาไว้ การตอบสนองในเชิงปรับตัวนี้คือ การล้อมเอาพลังที่ผิดปกติเอาไว้ทำให้เกิดกระเปาะพลังงานขึ้นมา ดร.อัพเลดเจอร์ เรียกกระเปาะพลังงานนี้ว่า ซีสต์พลังงาน หรือก้อนพลังงาน

ซีสต์พลังงาน จะกลายเป็นส่วนที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ ก็เท่ากับเป็นการยับยั้งการทำหน้าที่ที่เหมาะสมของร่างกาย คนที่มีสุขภาพสมบูรณ์ดีอาจจะทำงานได้ด้วยการใช้พลังงานที่มีการปรับเพิ่มเติมแล้ว แต่แบบแผนการปรับตัวจะมีประสิทธิภาพลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป อาการและการทำงานที่ผิดพลาดก็จะปรากฏขึ้นในลักษณะที่ยากที่จะระงับไว้หรือทำเป็นไม่ใส่ใจกับมันมากขึ้นเป็นลำดับ

การศึกษาของอัพเลดเจอร์และคาร์นี ได้แสดงให้เห็นว่า เมื่อบุคคลเก็บความรู้สึกในทางลบอย่างรุนแรงเอาไว้ เช่น ความโกรธ ความไม่พอใจ ความกลัว ฯลฯ ในขณะที่ได้รับบาดเจ็บแรงพลังต่างๆ ที่จู่โจมให้กับร่างกายก็จะถูกเก็บไว้ในรูปของ ซีสต์พลังงาน หากได้ค้นพบความรู้สึกทางลบในทันทีและระบายออกไปความผิดปกติของร่างกายและอาการที่มีควบมาด้วยก็จะสามารถออกไปจากร่างกายได้อย่างเสรี

การเยียวยาในแบบระบายอารมณ์โซมาโตนี้ระหว่างกระบวนการผู้ให้การบำบัดจะทำตัวเป็นผู้เอื้ออำนวยหรือส่งเสริมแง่มุมในทางบวกของความคิดกับร่างกาย และปรามแง่มุมในทางลบ แล้วช่วยระบายซีสต์พลังงานออกไปจากร่างกาย ด้วยการให้ร่างกายมีความทรงจำถึงตอนที่ได้รับบาดเจ็บเท่ากับเป็นการยุติการเก็บกดเอาไว้

ผู้ให้การบำบัดจำเป็นจะต้องมีความละเอียดอ่อนอย่างที่สุดถึงจะทำเช่นนี้ได้ โดยจะสัมผัสและปรับตัวบุคคลให้เป็นสิ่งที่ร่างกายในทางบวกอยากจะทำ และเข้าช่วยเหลือในกระบวนการนี้ จะสามารถทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติ โดยที่พลังซีสต์พลังงานจะถูกกำจัดออกไป ความร้อนจะแผ่ออกมาจากบริเวณซีสต์พลังงาน แล้วเนื้อเยื่อต่างๆ ก็จะผ่อนคลาย

ผู้รับการบำบัดจะรู้สึกความเจ็บปวด ความกลัว ความโกรธ ความเคืองแค้น ฯลฯ ขึ้นมาใหม่เมื่อมีการระบายซีสต์พลังงาน เหมือนกับตอนที่เกิดเหตุ ผู้ที่สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้สามารถติดต่อขอได้จากสถาบันอัพเลดเจอร์ ในสหรัฐอเมริกา ตามที่อยู่ดังนี้
Upledger Institute
11211 Prosperity Farms Road
Palm Beach Garden, FL 33410-3487
USA.

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า