ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 การนวดถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางเพื่อให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุเลาจากความเจ็บปวดและเพื่อส่งเสริมให้แผลหายเร็วขึ้น เนื่องจากคนรัสเซียที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงสงครามมีจำนวนเป็นล้านๆ คน รัฐบาลรัสเซียจึงต้องหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพและไม่สิ้นเปลืองมากนักมาใช้เยียวยาบำบัด
การแพทย์ในดินแดนของสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยอยู่ในเครือของสหภาพโซเวียตมาตั้งแต่สิ้นสุดสงคราม ซึ่งมีการนวดเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ได้มีการหาทางนำเอาวิธีการเยียวยาอาการป่วยในแบบธรรมชาติมาใช้มากกว่าจะหาทางพัฒนาเรื่องยาและการผ่าตัดเนื่องจากเหตุผลด้านเศรษฐกิจและอิทธิพลของวัฒนธรรมพื้นบ้านหรือวัฒนธรรมท้องถิ่นของรัสเซีย
การนวดแบบต่างๆ เพื่อสร้างการตอบสนองแบบจำเพาะขึ้นในระบบประสาทที่เป็นการนวดแบบคลาสสิค ก่อให้เกิดการผ่อนคลาย หรือกระตุ้นให้ระบบประสาทส่งผลกระทบในเชิงเยียวยารักษาอาการป่วยอย่างที่ต้องการ
การนวดแบบรัสเซียมีเทคนิคพื้นฐานอยู่ 4 อย่างคือ การลูบ การเสียดสี การบีบนวด และการทำให้เกิดความสั่นสะเทือน เทคนิคสองอย่างแรกนั้นจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ส่วนสองแบบหลังเป็นการกระตุ้น แต่ใน 4 เทคนิคนี้ก็มีลักษณะการนวดในแบบต่างๆ กันออกไปอีกมากมาย
ประโยชน์ของการนวดแบบรัสเซีย คือ ทำให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น อาการบวมลดลง อาการปวดน้อยลง มีการหมุนเวียนของโลหิตและน้ำเหลืองมากขึ้น ทำนองเดียวกันกับการนวดชนิดอื่นๆ
ในรัสเซียการนวดเพื่อการเยียวยาอาการป่วยยังถูกนำมาใช้เยียวยาอาการป่วยอื่นๆ ด้วย เช่น ปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูง ข้อต่อทำงานไม่ปกติ ปวดเส้นประสาท ผู้ป่วยไม่ควรจะรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายเพราะเทคนิคการนวดเหล่านี้
มีหมอนวดบางคนในสหรัฐฯ ที่นำเอาเทคนิคการนวดแบบรัสเซียมาใช้ในการนวดเชิงบำบัดอาการป่วยด้วยในปัจจุบันนี้
เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา