เป็นการนวดแบบกดจุดที่เก่าแก่ของจีนเพื่อใช้ในการเยียวยารักษา
คำว่า “ทุย” หมายถึง “ผลัก” ส่วน “หนา” หมายถึง “การคว้าเอาไว้” ซึ่งระบบนี้จะใช้มือสร้างเทคนิคต่างๆ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ระบบสรีระและพลังงานของร่างกาย
การนวดแบบทุยหนามีกำเนิดมาตั้งแต่ครั้งจีนโบราณ ซึ่งมีบันทึกที่เขียนบรรยายถึงวิธีการนวดเพื่อรักษาเด็กทารกเอาไว้ในสมัยราชวงศ์ชาง(Shang) ในตำราฮวงตี้ นีชิง หรือการแพทย์ภายในของจักรพรรดิเหลืองในสมัยเมื่อประมาณ 2500 ปีก่อนคริสตกาลก็ได้เอ่ยถึงการใช้ทุยหนา เป็นวิธีหลักในการรักษาควบคู่ไปกับการฝังเข็ม สมุนไพร การอังด้วยความร้อนและการออกกำลังกายแบบจี้กงด้วย
ในปี ค.ศ.618-907 ของสมัยราชวงศ์ถัง โรงเรียนแพทย์ของพระราชสำนักก็ได้นำการบำบัดด้วยการนวดแบบทุยหนามารวมไว้ในหลักสูตรด้วย
มีความเชื่อจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องการนวดบางคนว่า ผู้ที่นำเอา ทุยหนา มาเผยแพร่ให้รู้จักในยุโรปคือ มาร์โคโปโล และได้พัฒนากลายเป็นการนวดแบบสวีดิชในที่สุด การนวด และเทคนิคบางอย่างของสองสำนักนี้มีความคล้ายคลึงและเหมือนกันมาก เช่น การลูบ การนวดแบบขยำพร้อมกับนวดไปตามจุดเฉพาะ
ในปี ค.ศ.1976 มีครูที่สอนนวดแบบทุยหนาเป็นคนแรกในสหรัฐฯ คือ อาจารย์ แชร์ เค. ลิว(Share K. Lew) ซึ่งอยู่ที่วัดของลัทธิเต๋าในลอสเองเจลีส
ทุกวันนี้ ในสหรัฐฯ ก็มีผู้รู้จักการนวดแบบทุยหนากันอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ตามโรงเรียนสอนนวดหลายแห่ง รวมทั้งตามวิทยาลัยแพทย์แผนตะวันออกก็มีหลักสูตรนี้รวมอยู่ด้วย
ตามวิทยาลัยแพทย์แผนโบราณในสาธารณรัฐประชาชนจีนก็มีการสอนนวดแบบทุยหนาด้วย เพื่อบำบัดรักษาอาการต่างๆ การนวดนี้ได้ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง เช่น ใช้รักษาอาการที่เกิดจากความเสียหายของเนื้อเยื่อที่อ่อนนุ่ม โรคที่เกี่ยวกับข้อต่อและเส้นเอ็น ความผิดปกติภายในต่างๆ และยังได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการฝังเข็ม หรือการใช้สมุนไพรด้วย
ทฤษฎีการแพทย์แผนจีนโบราณเชื่อว่า ความไม่สมดุลระหว่างพลังงานหยินและหยางภายในร่างกายจะส่งผลให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บทุกอย่างขึ้น ในร่างกายพลังงานเหล่านี้จะหมุนเวียนอย่างอิสระไปตามเส้นทางหลักๆ ที่เรียกว่า “เมอริเดียน”(meridian) และเส้นทางระดับรองที่เล็กกว่า เรียกว่า “คอลแลทเทอรัล”(collateral) ซึ่งมีความสัมพันธ์กับอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งของร่างกาย ตามแนวช่องทางนี้จะมีจุดศูนย์กลางที่เรียกว่า “จุดฝังเข็ม” อยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงพลังงานที่เคลื่อนผ่านมันไป และยังส่งอิทธิพลถึงอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับมัน รวมทั้งเนื้อเยื่อรอบๆ ตัวมันด้วย
เมื่อการไหลเวียนของพลังงานที่จุดใดจุดหนึ่งถูกขัดขวาง ความสมดุลของหยิน/หยาง ก็จะเสียไป จึงเกิดอาการบางอย่างออกมาเป็นความเจ็บปวด อาการอักเสบ หรือความผิดปกติทางสรีระที่บริเวณนั้นๆ ของร่างกายขึ้นมา ซึ่งสภาพเช่นนี้มักจะพบได้บ่อยๆ
การนวดแบบทุยหนามีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูการไหลเวียนของพลังงานและโลหิตในบริเวณที่ได้รับความกระทบกระเทือนด้วยการขจัดสิ่งที่ขัดขวางอุดตันอยู่ โดยการใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อลดหรือเพิ่มพลังงานที่มีอยู่ในบริเวณนั้นให้เกิดความสมดุล
เทคนิคทุยหนามีลักษณะเบื้องต้นที่ใช้กันอยู่ ได้แก่ การจับกำ การกด การจี้ การถู โดยแต่ละเทคนิคใช้ลักษณะเหล่านี้ในแบบเฉพาะแน่นอน เพื่อเป็นการกระตุ้นจุดฝังเข็ม กระตุ้นเมอริเดียนและคอลแลทเทอรัล ผู้ให้การบำบัดจะใช้นิ้วมือ ใช้ผิวของนิ้วหัวแม่มือ ข้อนิ้ว ฝ่ามือ และข้อศอกในการกระตุ้น และยังมีการดัด การโยกโคลง และขยับเนื้อเยื่อที่อ่อนนุ่ม และข้อต่อในแบบต่างๆ ด้วย
การนวดแบบทุยหนาอย่างถูกต้องผู้ให้การบำบัดจะต้องพัฒนาความแข็งแรงและความละเอียดอ่อนให้กับมือของตัวเอง และยังต้องฝึกจี้กงเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของพลังงานไปที่มือของตนเองด้วย
เทคนิคการนวดแบบทุยหนายังมีประสิทธิภาพในด้านสรีระอย่างอื่นๆ ด้วย เช่น ระบบประสาท การหมุนเวียนโลหิต การหายใจ การย่อยอาหาร ระบบน้ำเหลือง ระบบกล้ามเนื้อและโครงกระดูก ฯลฯ ซึ่งเป็นผลกระทบที่นอกเหนือไปจากเรื่องที่เป็นหลักสำคัญในเรื่องพลังงานแล้ว
การบำบัดรักษาอาการป่วยหลายอย่างที่นำเอาการนวดแบบทุยหนามาใช้ รวมทั้งโรคหอบหืด ภูมิแพ้ ไข้ละอองฟาง ปวดประจำเดือน ข้ออักเสบ รูมาติซึ่ม เจ็บคอ การร้องไห้ของทารก ปวดหลัง และอื่นๆ
การนวดแบบทุยหนาสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งชั้นเรียนที่เปิดสอนได้จากสถาบันเต๋าของลอสแองเจลีล(Taoist Institute of Los Angeles) และที่วัดของลัทธิเต๋าในแซนดิเอโก และมีหนังสือที่ได้บรรยายถึงเทคนิคทุยหนาไว้อย่างละเอียดและมีภาพประกอบ ของ แชร์ เค.ลิว(Share K.Lew) และบิล เฮล์ม(Bill Helm) ซึ่งมีชื่อเรื่องว่า Tui Na: Chinese Healing and Acupressure Massage หากผู้ใดสนใจสามารถติดต่อขอซื้อได้จากที่วัดและที่สถาบันเต๋าตามที่อยู่ดังนี้
สถาบันเต๋า
Taoist Institute of Los Angeles
10632 Burbank Boulevard,
North Hollywood, CA 91601
USA.
วัดเต๋า
Toist Sanctuary of Sandiego
4229 Park Boulevard,
San Diego, CA 92103
USA.
เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา