สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

การศึกษาตนเองหรือการศึกษาโซมาติคตามแบบของฮันนา

ฮันนา โซมาติค เอดูเคชั่น (Hanna Somatic Education) บางครั้งก็เรียกสั้นๆ ว่า โซมาติคเอ็ดดูเคชั่น เป็นกระบวนการสอนวิธีควบคุมระบบประสาทและกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นมาโดยไม่รู้สึกตัว ให้แก่ผู้ที่มีความผิดปกติที่กล้ามเนื้อ

การนวดและการออกกำลังกายแบบโซมาซิค(Somatic Exercises) ในกระบวนการนี้ ใช้เพื่อทำให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายจากที่เคยมีอาการเกร็งอยู่อย่างเรื้อรัง ทำให้การควบคุมกล้ามเนื้อได้ฟื้นฟูขึ้น เพื่อบรรเทาอาการปวด และร่างกายสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นอิสระ

ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล คำว่า โซมา (soma) ในภาษากรีกก็ได้ถูกนำมาใช้ เพื่อจะให้ความหมายของคำว่า “ร่างกายที่มีชีวิต” โดยที่มนุษย์เรานั้นมักถูกมองได้ 2 แบบ คือ มองจากภายนอก และภายใจ แต่ตามหลักการแพทย์หรือสรีรวิทยาที่ยอมรับกันอย่างเป็นทางการนั้น คนเรามักถูกมองจากภายนอกจากร่างกายที่มีขนาดและรูปร่างจำเพาะ ซึ่งเป็นทัศนะการมองของบุคคลที่สาม แต่ถ้ามองมองตัวเองจากข้างในในลักษณะการมองจากบุคคลที่หนึ่งก็จะทำให้รู้ถึงความรู้สึกภายใน การเคลื่อนไหวและความตั้งใจที่มีอยู่ภายใน

โซมาติคส์(somatics) ตั้งอยู่บนพื้นฐานในงานของ โมเช่ เฟลเดนครายส์(Moshe Feldenkrais) และฮันส์ เซเยิล(Hans Seyle) โดยเพิ่มหลักการของไบโอฟีดแบ็ค(biofeedback)เข้ามา โดยที่เฟลเดนครายส์ได้พัฒนาเทคนิคอันทรงพลังในการรวมร่างกาย/ความคิดจิตใจเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และนำไปประกอบเข้ากับความรับรู้โดยผ่านการเคลื่อนไหวเพื่อส่งเสริมการสื่อสารระหว่างสมองกับร่างกาย ส่วนฮัน เซเยิล เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อและเป็นนักวิจัยในด้านการแพทย์ ซึ่งเขาเชื่อว่าความเครียดอาจก่อให้เกิดโรคขึ้นมาได้

โธมัส ฮันนา(Thomas Hanna) เป็นผู้ที่คิดคำว่า “โซมาติคส์” ขึ้นมา เขาได้เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งในปี ค.ศ.1970 มีชื่อว่า Bodies in Revolt : A Primer in Somatic Thinking หรือ บทเรียนขั้นแรกเกี่ยวกับการคิดแบบโซมาติคส์ และเขาได้ใช้เวลาในการการพัฒนากระบวนการของเขาโดยการวิจัยและประสบการณ์ในภาคปฏิบัติในอีก 16 ปีถัดจากนั้น

ฮันนาเกิดที่เมืองแว็คโค(Waco) ในรัฐเท็คซัส สหรัฐอเมริกา เขาปรารถนาที่จะเป็นนายแพทย์มาตั้งแต่อายุยังน้อยเนื่องจากเขาเป็นลูกชายของคนขายยา แต่ความสนใจของเขาก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อเข้าไปอยู่วิทยาลัย โดยที่ในปี 1949 เขาจบปริญญาในสาขาปรัชญาและดนตรีจากมหาวิทยาลัยคริสเตียน ซึ่งอยู่ในรัฐเท็คซัส ต่อจากนั้นก็ได้รับปริญญาตรีในสาขาวิชาเทววิทยา และได้ปริญญาเอกในสาขาวิชาปรัชญาจากมหาวิทยาลัยชิคาโก

มีคนมากมายที่เข้าสู่แวดวงของการแพทย์นอกระบบด้วยการรักษาตัวเอง แต่สำหรับฮันนา เขากลับเป็นคนที่มีสุขภาพดีเสมอมาและยังเป็นนักกีฬาอีกด้วย ในระหว่างที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยคริสเตียนในเท็คซัส เขาได้เล่นฟุตบอลและเป็นแชมเปี้ยนชกมวยรุ่นมิดเดิลเวทต์ของมหาวิทยาลัย ฮันนาได้รับอนุญาตให้เข้าเรียนในชั้นเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ฟลอริดา ที่ซึ่งเขาเป็นอาจารย์สอนวิชาปรัชญาอยู่ เนื่องจากเขามีความสนใจอย่างแรงกล้าในด้านสรีรวิทยาประสาท(neurophysiology) และในเวลาต่อมาการศึกษาในด้านสรีรวิทยาประสาทก็ได้กลายมาเป็นรากฐานของงานด้านโซมาติคส์ของเขา

ฮันนาได้ย้ายมาอยู่แซนฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนียในปี ค.ศ.1973 เพื่อทำงานในตำแหน่งผู้อำนวนการสถาบันจิตวิทยาแนวมนุษยธรรม(Humanistic Psychology) เขาได้จัดคอร์สการฝึกร่วมกับโมเช่ เฟลเดนคายส์ ขึ้นเป็นครั้งแรกในสหรัฐฯ ระหว่างที่เขาอยู่ที่นั่น ฮันนามิได้นำงานของเฟลเดนครายส์มาปรับใช้อย่างเต็มที่แม้จะมีความสนใจก็ตาม แต่เขาก็ได้จัดตั้งสถาบันเพื่อการวิจัยและฝึกแบบโซมาติคส์ขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1975 ซึ่งมีชื่อว่า สถาบันโนเวโท(Novato Institute for somatics Research and Training)

การศึกษาสรีรวิทยาประสาท ทำให้ฮันนาตระหนักดีว่า เนื่องจากความเครียดและการบาดเจ็บที่ได้รับอยู่เป็นประจำจนไม่สามารถระบายทิ้งไปได้จึงทำให้กล้ามเนื้อมีการเกร็งอย่างเรื้อรังขึ้น เพราะหลักการ “ห่วงปิด”(closed loop) ในระบบรับสัมผัสและเคลื่อนไหวของร่างกาย หรืออาจกล่าวได้ว่า เมื่อกล้ามเนื้อหดเกร็งเพราะต้องมีปฏิกิริยารับแรงกระทบชนิดต่างๆ หรือเพราะได้รับบาดเจ็บเป็นระยะเวลานานอย่างยืดเยื้อมันก็จะลืมวิธีที่จะผ่อนคลายไปเสีย ซึ่งฮันนาได้ตั้งชื่อสภาวะนี้ว่า เซ็นซอรี่ มอเตอร์ แอมนีเซีย(sensory motor amnesia)

ในวิธีการนี้ ผู้บำบัดจะนำข้อมูลที่เกี่ยวกับการรับรู้แบบใหม่มาสู่ระบบการรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวเพื่อทำให้มีการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ ผู้รับการบำบัดจะมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้อย่างกระฉับกระเฉงจึงจะเกิดประสบการณ์ด้านนี้ขึ้น ไม่ใช่จะอยู่นิ่งๆ และเพื่อให้กล้ามเนื้อคุ้นกับการเคลื่อนไหวในแบบอย่างใหม่ที่ง่ายขึ้นก็จะต้องมีการออกกำลังกายซ้ำอีกที่บ้าน

ฮันนาเชื่อว่า การที่เรามีกิจกรรมลดลง จะทำให้สิ่งที่เรียกว่า “วัยชรา” และความเสื่อมของร่างกาย ตลอดจนความอ่อนแอและความเฉื่อยจะเกิดขึ้นมา มันเป็น “เซ็นซอรี่ มอเตอร์ แอมนีเซีย” ที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ และซุกซ่อนอยู่ในร่างกาย มันไม่ใช่สิ่งที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราสามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้

ในปี 1990 ก่อนที่ฮันนาจะถึงแก่กรรมในเวลาอันไม่บังควร เขาได้เขียนหนังสือไว้อีกเล่มหนึ่ง ชื่อว่า Somatic : Reawakening the Mind’s Control of Movement, Flexibility, and Health ซึ่งได้บรรยายถึงโปรแกรมการออกกำลังกายแบบโซมาติคไว้อย่างละเอียด สามารถหาอ่านได้จากร้านหนังสือหรือห้องสมุดทั่วไป หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อขอได้จากสถาบันเพื่อการวิจัยและการฝึกโซมาติค โนเวโท ตามที่อยู่ดังนี้
Novato Institute for Somatic Research and Training & Somaics Society
1516 Grant Avenue, Suite 212,
Novato, CA 94945
USA.

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า