สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

ปัสสาวะบ่อยๆ (Pollakiuria)

ปัสสาวะบ่อย
ลักษณะทางคลินิก
ถ่ายปัสสาวะบ่อยๆ โดยที่แต่ละครั้งมีปริมาณปัสสาวะไม่มาก (ไม่ใช่ poly¬uria) อาจเป็นถึง 20-30 ครั้ง/วัน มักไม่มีประวัติ dysuria อายุที่พบบ่อย 4-8 ปี

ในเด็กปกติอายุ
3-5 ขวบ ปัสสาวะ 8-14 ครั้ง/วัน มีปริมาณ 600- 700 มล.
5-8 ขวบ ปัสสาวะ 6-12 ครั้ง/วัน มีปริมาณ 650-1,000 มล.
8-14 ขวบ ปัสสาวะ 6-8 ครั้ง/วัน มีปริมาณ 800-1,400 มล.

สาเหตุ
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยคือ
1. โรคระบบทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ การติดเชื้อ เช่น กระเพาะปัสสาวะ อักเสบ หรือท่อปัสสาวะอักเสบ นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะเป็นกรดมากเกินไป
2. โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น ไส้ติ่งอักเสบ
3. การตั้งครรภ์และยาบางชนิด
4. สาเหตุทางจิตใจ เป็นสาเหตุที่พบบ่อย

ประวัติ
ต้องซักประวัติถึงสาเหตุทางจิตใจ โดยเฉพาะเมื่อตัดสาเหตุโรคทางกายออกแล้ว โดยซักถึง
-ปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดความวิตกกังวล หรือตกใจในช่วงเวลา ก่อนเกิดอาการ (precipitating factors) เช่น การมีน้องใหม่ การย้ายโรงเรียน เป็นต้น
-ประวัติปัสสาวะผิดปกติในครอบครัว ซึ่งเด็กอาจเลียนแบบมา
-การตอบสนองตลอดจนทัศนคติของผู้ปกครอง และเด็กต่ออาการผิดปกติดังกล่าว
-สัมพันธภาพระหว่างผู้ปกครอง-เด็ก ตลอดจนปัญหาอื่นๆ ในครอบครัว

ตรวจร่างกาย
ตรวจร่างกายทุกราย โดยเน้นเช่นเดียวกับกรณีปัสสาวะรดที่นอน

การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
Urinalysis ทุกราย    ถ้ามีข้อบ่งชี้ก็ควรตรวจอย่างอื่นเพื่อตัดสาเหตุ
จากโรคทางกายอื่นๆ

การรักษา
1. ถ้าพบสาเหตุทางร่างกายให้รักษาตามสาเหตุนั้น

2. ถ้าเป็นสาเหตุทางจิตใจให้อธิบาย และให้คำปรึกษาแนะนำดังนี้
-อธิบายให้ผู้ปกครองและเด็กเข้าใจถึงปัญหาของโรค
-ถ้าพบปัจจัยที่เป็นสาเหตุก็ต้องช่วยลด stress หรือหาวิธีช่วยให้เด็กสามารถจัดการกับ stress นั้นได้ดีขึ้น
-ให้ผู้ปกครองลดความกังวล และอย่าเพ่งเล็งอาการของเด็ก แต่ให้ สนใจช่วยเด็กในการแก้ปัญหา ตลอดจนแก้ไขปรับปรุงปัญหาทางอารมณ์ที่มีอยู่

3. อาจให้ยาช่วยคลายกังวล เช่น benadryl, chlordiazepoxide หรือ diazepam ในบางราย

ที่มา:ปิยาณี  ชัยวัฒนพงศ์
ชาญวิทย์  เงินศรีตระกูล

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า