1. กำหนดพลังงานอาหารที่รับประทานให้เหมาะสม เพื่อให้ผู้ที่เป็นโรคอ้วนสามารถ ควบคุมนํ้าหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่ควรเป็น โดยลดนํ้าหนักตัวให้ได้ประมาณ 5-10% ของนํ้าหนักที่เป็นอยู่ในขั้นแรก และรักษานํ้าหนักที่ลดให้ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับวิถีการดำเนินชีวิตให้ถูกต้อง และเหมาะสมจะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนของโรคอ้วนได้ การให้โภชนบำบัดในการรักษาโรคอ้วนใช้หลักการของ National Institute of Health ดังแสดงในตารางที่ 6
2. กำหนดปริมาณโปรตีนประมาณ 10-20% ของพลังงานโดยเน้นแหล่งของโปรตีน จากเนื้อสัตว์ที่มีไขมันน้อย ปลาไก่ ถั่วเมล็ดแห้งและผลิตภัณฑ์จากถั่วเมล็ดแห้ง
3. กำหนดปริมาณไขมันขนิดของไขมันและคอเลสเตอรอลให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลซึ่งขึ้นอยู่กับระดับไขมันในเลือดของแต่ละคน ผู้ที่มีความผิดปกติของระดับไขมันในเลือดควรควบคุมระดับไขมันในเลือด โดยใช้หลักการของ TLC Diet (Therapeutic Lifestyle Changes Diet) ร่วมด้วย
4. กำหนดปริมาณคาร์โบไฮเดรดประมาณ 50% ของพลังงาน โดยใช้รายการอาหารและเปลี่ยนอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนร่วมในการวางแผนอาหาร
5. ลดปริมาณโซเดียมในอาหารสำหรับผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง ลดโซเดียมให้น้อยกว่า 2.4 กรัม หรือเท่ากับเกลือ 6 กรัม
6. ติดตามประเมินการบริโภคไขมันในผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูง
7. กำหนดและดัดแปลงอาหารให้เหมาะสมกับอาหารในท้องถิ่นของผู้ที่เป็นโรคอ้วน ให้รับประทานเป็นประจำ
ตารางที่ 6 โภชนบำบัดสำหรับการลดนํ้าหนัก
สารอาหาร |
ปริมาณที่ควรบริโภคต่อวัน |
พลังงงาน, กิโลแคลอรี | ลดลง ~500-1000 กิโลแคลอรีจากพลังงานปกติ |
ไขมัน, % พลังงาน | ≤30 |
ไขมันอิ่มตัว (SFA), % พลังงาน | 8-10 |
ไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (PUFA), % พลังงาน | 10 |
ไขมันไม่อิ่มตัวหนึ่งตำแหน่ง (MUFA), % พลังงาน | 15 |
คาร์โบโฮเดรต, % พลังงาน | ≥55 |
โปรตีน, % พลังงาน | 15 |
คอเลสเตอรอล, มิลลิกรัม | < 300 |
ใยอาหาร, กรัม | 20-30 |
โซเดียม, กรัม | < 2.4 หรือ เกลีอ 6 กรัม |
แอลกอฮอล์ | ผู้หญิง 1 drink, ผู้ชาย 2 drinks |
ที่มา : Expert Panel on the Identification. Evaluation, and Treatment of Overweight and obesity in adults 1998
ผู้ที่มีความผิดปกติของระดับไขมันในเลือด ควรให้โภชนบำบัดตามหลักการของTherapeutic Lifestyle Change Diet (TLC diet) ดังแสดงในตารางที่ 7 ร่วมกับการลดปัจจัยเสี่ยง เช่น เพิ่มการออกกำลังกาย ลดนํ้าหนักตัว ลดความเครียด ลดการดื่มสุราและสูบบุหรี่ จะสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของไขมันในเลือดและโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ และเป็นปัญหาที่มักพบในผู้ที่เป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวาน
ตารางที่ 7 โภชนบำบัดในผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูง
สารอาหาร |
ปริมาณที่ควรบริโภคต่อวัน |
ไขมัน, % พลังงาน | 25-35 |
ไขมันอิ่มตัว (SFA), % พลังงาน | < 7 |
ไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (PUFA)), % พลังงาน | 10 |
ไขมันไม่อิ่มตัวหนึ่งตำแหน่ง (MUFA)), % พลังงาน | ≥20 |
คาร์โบไฮเดรต, % พลังงาน | 50-60 |
โปรตีน, % พลังงาน | 15 |
ใยอาหาร, กรัม | 20-30 |
คอเลสเตอรอล, มิลลิกรัม | < 200 |
พลังงาน | เพื่อรักษานํ้าหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่ควรเป็นเป็น |
ที่มา : Expert Panel on Detection, Evaluation, and Treatment of High Blood Cholesterol in Adults, 2001,
ตารางที่ 8 อาหารที่ควรรับประทานและควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ที่เป็นโรคอ้วน
อาหารเพื่อสุขภาพที่ควรรับประทานบ่อย |
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหรือไม่รับประทานเป็นประจำ |
หมวดข้าวแป้ง-ธัญพืชข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ วุ้นเสัน ขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง Whole wheat,ข้าวโพดต้ม Mash potato, Bake potato | ข้าวขาว ข้าวไม่ขัดสี ข้าวผัด ข้าวมัน ข้าวเหนียวมูล ขนมปังขาว French fries Potato chip, ข้าวโพดอบเนย |
หมวดผักผักสด ผักที่ปรุงโดยใช้นํ้ามันน้อย | ผักชุบแป้งทอด ผักดองหวาน-เค็ม |
หมวดผลไม้ผลไม้สด ผลไม้กระป๋องที่มีนํ้าตาลน้อย ผลไม้กวน ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้ดอง กล้วยแขก | ผลไม้หวานจัด ผลไม้กระป๋องที่มีนํ้าตาลมาก กล้วยทอด กล้วยบวดซี |
หมวดเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ปลา ไก่ สันในหมู สันในไก่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน Low fat cheese. Skim cheese เนื้อสัตว์ปรุงโดยการต้ม นึ่ง ย่าง ลวก ยำ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแดง และผลิตภัณฑ์เต้าหู้อ่อน เต้าหู้แข็ง | เครื่องใน หนังหมู หนังไก่ เนื้อสัตว์ทอด หมูทอด ไก่ทอด Regular cheese ขาหมู ไส้กรอก เบคอน |
หมวดไขมันนํ้ามันพืช นํ้ามันถั่วเหลือง นํ้ามันรำข้าว นํ้ามันข้าวโพด นํ้ามันดอกทานตะวัน นํ้ามันมะกอก | นํ้ามันปาล์ม นํ้ามันหมู นํ้ามันไก่ หนังหมู หนังไก่ กะทิ เนย ครีมเทียม |
หมวดนมนมขาดไขมัน นมพร่องไขมัน โยเกิร์ตรสธรรมชาติ | นมสดธรรมดา นมหวานรสต่างๆ โยเกิร์ตรสผลไม้ |
การควบคุมอาหารสำหรับผู้เป็นโรคอ้วนให้ได้ผลดีนั้น ควรควบคุมอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง ควรมีวินัยในการบริโภคอาหาร รับประทานอาหารให้ตรงตามเวลา ไม่รับประทานจุกจิก ควบคุมปริมาณอาหารและสารอาหาร และที่สำคัญต้องลดอาหารประเภทไขมัน นํ้าตาล ของหวานให้น้อยลง หลีกเลี่ยงนํ้าอัดลม นํ้าหวาน เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ รวมถึงการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นต้นเหตุร้ายของโรคแทรกซ้อนบริโภคอาหารประเภทโปรตีนที่เหมาะสม เช่น ปลา ถั่วเมล็ดแห้ง เพิ่มการรับประทานผักให้มากขึ้น และรับประทานผลไม้ที่ไม่หวานแต่พอควร ประกอบกับการออกกำลังกายอย่างสมํ่าเสมอ
การกำหนดแบบแผนการบริโภคอาหารสำหรับผู้ที่เป็นโรคอ้วน
การกำหนดแบบแผนการบริโภคอาหารสำหรับผู้ที่เป็นโรคอ้วนเป็นหน้าที่โดยตรงของ นักโภชนาการหรือนักกำหนดอาหาร ซึ่งต้องใช้รายการอาหารแลกเปลี่ยน ดังแสดงไว้ในตารางที่ 9 รายการอาหารแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือและข้อมูลสำคัญที่ใช้ประกอบในการกำหนดและคำนวณ อาหารสำหรับผู้ที่ป็นโรคอ้วน โดยคำนึงถึงภาวะโภชนาการและบริโภคนิสัยองผู้ที่เป็นโรคอ้วน แต่ละบุคคลเป็นเกณฑ์สำคัญในการกำหนดแบบแผนอาหาร
ตารางที่ 9 คุณค่าอาหารในรายการอาหารแลกเปลี่ยนไทย
หมวดอาหาร | ปริมาณ | โปรตีนกรัม | ไขมันกรัม | คาร์โบไฮเดรตกรัม | พลังงานกิโลแคลอรี |
1. หมวดข้าว-แป้ง | ½ – 1 ทัพพี | 2 | – | 18 | 80 |
2. หมวดผัก | |||||
ประเภท ก | ½ – 1 ถ้วยตวง | – | – | – | – |
ประเภท ข | ½ – 1 ถ้วยตวง | 2 | – | 5 | 25 |
3. หมวดผลไม้ | ½ – 1 ถ้วยตวง | – | – | 15 | 60 |
4. หมวดเนื้อสัตว์ | |||||
ก. เนื้อสัตว์ไขมันต่ำมาก | 30 กรัม | 7 | 0-1 | – | 35 |
ข. เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ | 30 กรัม | 7 | 3 | – | 55 |
ค. เนื้อสัตว์ไขมันปานกลาง | 30 กรัม | 7 | 5 | – | 75 |
ง. เนื้อสัตว์ไขมันสูง | 30 กรัม | 7 | 8 | – | 100 |
5. หมวดนม | |||||
นมธรรมดา | 240 มล. | 8 | 8 | 12 | 150 |
นมพร่องมันเนย | 240 มล. | 8 | 5 | 12 | 120 |
นมขาดมันเนย | 240 มล. | 8 | 0-3 | 12 | 90 |
6. หมวดไขมัน | 1 ช้อนชา | – | 5 | – | 45 |
ที่มา : สมาคมนักกำหนดอาหาร, 2545
สรุปสถานการณ์การกินอาหารและพฤติกรรมการกินที่ปรับเปลี่ยนไปของคนไทยเป็นสิ่งที่ควรมีการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยหันกลับไปมีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสามารถให้ความรู้และคำแนะนำปรึกษาด้านโภชนาการ รวมทั้งติดตามประเมินผลการปรับ พฤติกรรมการบริโภคอาหาร ซึ่งจะลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนและโรคอ้วนลงพุง เมตาโบลิกซินโดรม และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในเรื่อง “เมืองไทยแข็งแรง”