(Psychosurgery)
ในระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๔๐-๑๙๔๙ ผู้ป่วยเป็นพันๆ รายได้รับการรักษาโดยการทำ leucotomy หรือการแยก white matter ด้วยเครื่องมือทู่ๆ ผ่านรูที่เจาะตรงขมับ เพื่อรักษา อาการวิตกกังวล อารมณ์เศร้า และอาการย้ำคิด แต่การกระทำนี้มักก่อให้เกิดความพิการตามมา เช่นเกิดโรคลมชัก เกิดการเปลี่ยนแปลงของบุคลิกภาพอย่างมากร่วมกับอารมณ์เฉยชา (apathy) หรือเกิดการขาดความยับยั้งชั่งใจ เพราะฉะนั้นในระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๕๐-๑๙๕๙ จึงได้เลิกทำกัน จนกระทั่งเมื่อมีการดัดแปลงปรับปรุงการรักษาวิธีนี้ขึ้นมาใหม่ที่อันตรายน้อยกว่า ได้แก่วิธี Stereotaxis จึงมีการนำวิธีทางศัลยกรรมมาใช้รักษาโรคทางจิตเวชใหม่
วิธีทำ วิธีที่ทำกันมี
๑. ตัดข้างใต้ medial third ของ orbital cortex
๒. Bimedial leucotomy ที่ fronto-thalamic bundle
๓. Cingulectomy ตัด anterior cingulate gyrus
๔. ทำให้เกิดรอยแผลโดยวิธี Stereotaxis ที่ subcaudate nucleus, amygdala, thalamus และ hypothalamus ทั้ง ๒ ข้าง
ข้อบ่งชี้ในการทำ
๑. อารมณ์ตึงเครียด ความวิตกกังวลอย่างรุนแรง อารมณ์เศร้าอย่างเรื้อรัง และอาการย้ำคิดจะได้ผลดีจากการทำศัลยกรรม
๒. ศัลยกรรมจะทำต่อเมื่อการรักษาวิธีอื่นไม่ได้ผลแล้ว แต่ก็ไม่ควรลังเลจนเกินไป
๓. ผู้ป่วยสูงอายุจะได้ผลดีกว่าผู้ป่วยที่อายุน้อยๆ
๔. โรค Temporal lobe epilepsy ที่ร่วมกับปัญหาทางพฤติกรรมอาจดีขึ้นจากศัลยกรรม
ความเสี่ยงในการทำ
ปัจจุบันการตายจากการผ่าตัดพบน้อย เพราะรอยแผลเล็ก รวมทั้งมีการเลือกผู้ป่วย
ผลการรักษา
ถ้าได้เลือกเฟ้นผู้ป่วยเป็นอย่างดี การรักษาจะได้ผลเป็นส่วนมาก ที่ดีที่สุดคืออาการจะหายไปหมด แต่ถ้าการรักษาไม่ได้ผลขนาดที่กล่าวผู้ป่วยก็มักมีอาการดีขึ้น และอาจตอบสนอง ต่อการรักษาอย่างอื่นซึ่งเคยล้มเหลวมาแล้ว