แม้ว่าในปัจจุบันในต่างประเทศจะอ้างว่าโรคนี้พบได้ไม่บ่อย แต่ในประเทศไทยยังพบได้อยู่เสมอ วัณโรคของข้อกระดูกเป็นโรคที่ทำให้เกิดพยาธิสภาพเฉพาะที่ ไม่ลุกลามออกไปมาก ส่วนใหญ่เชื้อจะเข้าทางหลอดเลือด การเกิดโรคนี้มีได้ทั้งที่ข้อโดยเริ่มที่เยื่อบุข้อ วัณโรคกระดูกที่ทำให้เกิดกระดูกอักเสบเป็นหนองจากเชื้อวัณโรค (tuberculous osteomyelitis) มีลักษณะพิเศษ คือ มีการทำลายของกระดูกและมีการสร้างกระดูกใหม่บ้างเล็กน้อย เยื่อบุข้อที่เป็นโรคนี้จะมีลักาณะหนา สร้างน้ำในข้อมาก และพร้อมกันก็เกิด fibrosis ไปด้วย นอกจากนี้ยังมีเนื้อเยื่อสมานแผล (granulation tissue) เกิดขึ้นมากมาย ทำให้มีการทำลายกระดูกอ่อนในข้อและกระดูกชั้นใต้ลงไปจากเนื้อเยื่อสมานแผล ผลของการอักเสบทำให้เกิดเนื้อเยื่อที่ตายรวมกับน้ำเป็น caseous material ทำให้เกิดแรงดันในข้อเพิ่มขึ้น ถ้าแรงดันมากพอ เอ็นหุ้มข้อจะแตก หนองไหลออกมาจากข้อกลายเป็นฝีสบาย (cold abscess) บางครั้งหนองจะเซาะไปตามช่องระหว่างกล้ามเนื้อหรือแผ่นเอ็นลึก ไปทะลุผิวหนังอีกตำแหน่ง ในช่องที่ทะลุผิวหนัง บางครั้งมีการติดเชื้อจากเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ ได้ พยาธิสภาพของข้อมักลงเอยด้วยการถูกทำลายจนสิ้นสภาพข้อ
อาการ
อาการทางคลินิก ส่วนใหญ่พบว่าเป็นข้อเดี่ยว ๆ (ร้อยละ ๙๐) อาการทั่วไปน้ำหนักตัวลด อ่อนเพลีย อาจพบต่อมน้ำเหลืองโต เดินกระเผลก ในเด็กเล็กกลางคืนอาจตื่นแล้วร้องไห้ เนื่องจากกล้ามเนื้อหย่อน ข้อเสียดสีกัน ทำให้เกิดความเจ็บปวด ตำแหน่งที่พบบ่อย ได้แก่ ที่ข้อสันหลัง และที่ข้อตะโพก ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อข้างกระดูกกระเบนเหน็บ(S.I.) ข้อไหล่ ข้อมือ ตามลำดับ กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องเหล่านี้มักฝ่อลีบด้วยเสมอ
รูปที่ ๒๓ แสดงลักษณะวัณโรคกระดูกที่นิ้วกลาง นิ้วบวมโตและงอ
การตรวจภาพรังสี
บริเวณกระดูกที่เกี่ยวข้องมีลักษณะโปร่งบาง เนื่องจากมีการละลายของแคลเซียมมาก (decalcification) ซึ่งจะพบห่างจากข้อประมาณ ๓-๕ ซม. ช่องข้อจะกว้างออกในระยะแรกที่มีน้ำในข้อเพิ่มขึ้น แต่ต่อมาจะแคบลงในระยะที่มีการทำลายกระดูกภายในข้อ การแคบของข้อจะช้ากว่าโรคข้ออักเสบเป็นหนองมาก ลักษณะการทำลายของกระดูกที่พบบริเวณส่วนสร้างกระดูก (epiphysis) หรือช่วงต่อปลายกระดูก (metaphysic) จะเห็นเด่นชัดในส่วนที่ไม่ได้รับน้ำหนักโดยตรง ซึ่งต่างจากโรคข้ออักเสบเป็นหนอง การสร้างกระดูกใหม่ในระยะแรก ๆ จะไม่พบ นาน ๆ จึงพบชิ้นกระดูกตาย (sequestrum) ซึ่งอาจพบได้บางครั้ง เงาของฝีข้างกระดูกสันหลัง (paravertebral abscess, psoas abscess) อาจมองเห็นได้ในภาพรังสี
การวินิจฉัยโรค
การตรวจเลือด อาจพบว่าเม็ดเลือดขาวมีจำนวนสูงขึ้น อัตราการนอนก้นของเม็ดเลือดแดงตกเร็วขึ้น (E.S.R.) ผู้ป่วยมีอาการโลหิตจาง ถ้านำน้ำจากข้อไปตรวจจะพบว่าปริมาณน้ำตาลในน้ำจากข้อต่ำ การตรวจหาเชื้อทำได้โดยนำไปฉีดหนูตะเภา นอกจากนี้การตัดเนื้อจากต่อมน้ำเหลืองไปตรวจจะช่วยการวินิจฉัยได้
การรักษา
โดยทั่วไปให้พักส่วนที่เป็น อาจเข้าเฝือกถ้าทำได้ ให้ยาต้านวัณโรคที่ใช้ในวัณโรคกระดูกและข้อ เมื่อเริ่มให้ยามักให้ ๒ อย่าง จะเพิ่มเป็น ๓ อย่างต่อเมื่อจะผ่าตัดรักษา ระยะเวลาที่ให้ ๑-๒ ปี ยามาตรฐานที่ใช้กันอยู่ คือ
๑. I.N.H. ได้ผลดีที่สุดจำนวนที่ให้ ๑๐-๒๐ มก. ต่อ กก. น้ำหนักตัวต่อวันแต่ไม่เกิน ๑,๕๐๐ มก. ต่อวัน ใช้นานจะขาดวิตามินบี ๖ พิษของยาอาจทำให้ปลายประสาทอักเสบ การตอบสนองของเอ็นกล้ามเนื้อไวกว่าปรกติ (hyperreflexia) อาการโรคจิต อาจเกิดอาการชักได้
๒. Streptomycin ขนาดที่ใช้ฉีด ๒๐-๔๐ มก. ต่อ กก. น้ำหนักตัวต่อวัน ขนาดรวมไม่เกิน ๑ กรัม ต่อวัน วิธีใช้ ฉีดทุกวันเป็นเวลา ๑-๒ เดือน ต่อไปฉีดสัปดาห์ละ ๒ ครั้ง ๓-๖ เดือน รวมจำนวนครั้งที่ฉีดประมาณ ๕๐-๑๐๐ เข็ม พิษของยามีผลต่อประสาทสมองที่ ๘ ทำให้หูหนวก หรืออวัยวะการทรงตัวเสียไป
๓. PAS. ยาชนิดนี้ใช้เสริมการรักษา มีผลอ่อนกว่า ๒ อย่างแรก ขนาดที่ใช้ ๒๐๐-๓๐๐ มก. ต่อ กก. น้ำหนักตัวต่อวัน ขนาดรวมไม่เกิน ๑๒ กรัมต่อวัน ผลข้างเคียงทำให้ระคายระบบทางเดินอาหาร มีอาการท้องเสียอาเจียนได้
การรักษาโดยวิธีไม่ผ่าตัด นอกจากจะให้ยาที่กล่าวมาแล้วนี้ ในปัจจุบันอาจใช้ยาตัวอื่นร่วมด้วย การรักษารวมไปถึงการดึงถ่วงน้ำหนักและการรักษาทางกายภาพบำบัดร่วมด้วย ซึ่งปรากฎว่า การรักษาทางยาร่วมกับการเข้าเฝือกได้ผลดี
การรักษาโดยวิธีผ่าตัด คือ การผ่าตัดเลาะเยื่อบุข้อที่เป็นโรคออก (synovectomy) การขูดเอาเนื้อเยื่อที่เป็นโรคออก (curettage) ซึ่งต้องระวังแผ่นสร้างกระดูกไม่ให้เสียหายก่อนทำการผ่าตัด ควรได้รับยาต้านวัณโรคมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๔-๖ สัปดาห์ หลังผ่าตัดควรทำให้ส่วนที่เป็นอยู่นิ่งโดยการดึงถ่วงน้ำหนัก เข้าเฝือก การเริ่มเคลื่อนไหวข้อควรทำเมื่อหายปวด การดูแลคนไข้ควรดูจนคนไข้ไม่มีไข้และอัตราการนอนก้นของเม็ดเลือดแดงลดลง การถ่ายภาพรังสีจะเห็นการสร้างกระดูกใหม่ ข้อที่เป็นควรได้รับการดูแลต่อไปอีก ๓ เดือน จึงใช้งานได้เต็มที่ ส่วนยายังต้องให้ต่อไป ๑-๒ ปี การผ่าตัดอีกอย่างหนึ่ง คือ การผ่าตัดเชื่อมข้อ อาจต้องกระทำถ้าข้อเสียมาก