สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

โรคร้ายแรงในเด็กทารก

ในคัมภีร์ประถมจินดาผูก 2 ปริเฉท 1 กล่าวถึงลักษณะรูปสตรีและรูปกุมาร

ว่าด้วยลักษณะรูปสตรีและรูปกุมาร ว่าด้วยลักษณะปักษีและปีศาจกระทำโทษ ว่าด้วยลักษณะน้ำนมมีโทษ 3 ประการ ว่าด้วยลักษณะดวงซางโจร ซางแดง ซางเหลืองมาเกิด ว่าด้วยลักษณะซางนิลปัตร นิลหละมาเกิดโดยสังเขป

ปักษี เชื่อว่าเด็กเกิดโรคร้ายขึ้นเพราะปีศาจ ลักษณะที่เรียกว่าปักษี ที่แปลว่านก ไม่แน่ใจว่าโบราณจะเชื่อเรื่องเทพหรือผีที่เกี่ยวกับนกอย่างไร ยังหาเหตุผลไม่ได้ แต่ชื่อนี้ก็ทำให้นึกถึงไข้หวัดนก อาการที่เรียกว่าปักษีมีหลายแบบ คือ

1. นนทปักษี บางตำราเรียกว่า นันทปักษี มักทำให้มีอาการท้องขึ้น ท้องเฟ้อ เบื่ออาหาร อาเจียน สำรอกทางปากและจมูก มักเกิดขึ้นขณะที่มารดาอยู่ในเรือนไฟ ปักษีนี้โบราณเชื่อว่าเป็นปีศาจ จะเข้าทางไส้ตอนเช้าตรู่ และออกทางทวารหนักเมื่อสิ้นแสงตะวัน ตอนเข้าสัตว์เดียรฉานจะร้องทำให้ทารกตกใจแล้วจึงเข้าไป เมื่อจะออกสัตว์นั้นก็จะร้องกัดกันแล้วจึงออกไป

มักกลัวใบหนาด ใช้มหาหิงคุ์ทา

2. กาลปักษี มักเกิดเมื่อออกจากเรือนไฟได้ 5 เดือน มักทำให้มีลมในลำไส้ ท้องขึ้น ร้องไห้ ให้อาเจียนทางปากและจมูกเมื่อหลับ กระทำโทษออกทางทวารปัสสาวะ เข้าตอนเข้านอน ออกเมื่อตะวันขึ้น เมื่อจะเข้าไม้ไล่หักครื้นเครง สัตว์รบกัดกันจึงเข้า เมื่อออกสัตว์รบกัดกันจึงออก

กาลปักษีจะกลัวเมื่อใช้สาบแร้ง 1 สาบกา 1 เขาควาย 1 เผารวมกัน

3. อสุนนทปักษี ทำให้สะดุ้งผวาตกใจและร้องขึ้นในตอนหลับ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ปีศาจจะเข้าทางจมูกและออกทางตา จะเข้าในตอนเที่ยงออกตอนเที่ยงคืน ตอนเข้าจะมีคนไกลเอาสัตว์ 4 เท้า 2 เท้ามาหา เมื่อมีคนทุ่มเถียงกันจึงออก

อสุนนทปักษีจะกลัวเมื่อเอาขนนก1 ขนกา1 มาเผารวมกัน

4. เทพีปักษี มักเกิดขึ้นตอนออกจากเรือนไฟได้ 3-4 เดือน ทำให้มีอาการ ให้ง่ามือง่าเท้าเหลือกตาซ้ายขวา ให้ท้องขึ้นให้มือแลเท้าเย็น เป็นเหน็บ ให้หัวร้อนดังนี้ ปีศาจเข้าโดยนมออกทางจักษุ เข้าเมื่อตะวันเย็นออกเมื่อเช้าก่อนงาย เมื่อเข้ามีเสียงลมพัดแลฟ้าร้องเสียงฆ้องกลองจึ่งเข้า เมื่อออกนั้นเสียงมนุษย์ร้องไห้จึงออก

เทพีปักษีจะกลัวเมื่อเอาใบพลับพลึง1 สุพรรณถัน1 มาเผารวมกัน

ถ้าทารกป่วยครบ 4 ประการนี้ แต่ขวบถึง 11 เดือน แต่ขวบ 1 กับ 6 เดือน ปี 1 ตาย เป็นการตายที่ไม่ทราบสาเหตุ โบราณก็อธิบายไม่ได้ จึงเชื่อว่าเป็นการกระทำของปีศาจใน 3 ฤดู ได้แก่

เดือน 5,6,7,8 พระสีพรหมยักษ์ อยู่ทิศเป็นใหญ่กว่าปีศาจทั้งหลาย เข้ามากระทำโทษแก่กุมารทั้งปวง

เดือน 9,10,11,12 พระสีหัสบดี อยู่ทิศเป็นใหญ่กว่าฝูงปีศาจทั้งปวง เข้ามากระทำโทษแก่กุมารทั้งปวง

เดือน 1,2,3,4 พระสีกุมารยักษ์ อยู่ทิศเป็นใหญ่กว่าภูติปีศาจทั้งปวง เข้ามากระทำโทษแก่กุมารทั้งทั้งปวง

อาการร้ายแรงที่ทำให้ถึงตายดังกล่าว อาจเป็นโรคของระบบทางเดินอาหาร เพราะทำให้อาเจียน ซึ่งอาจเกิดจากภาวะลำไส้อุดตัน หรือการอักเสบอย่างรุนแรงของลำไส้ และอาจมีอาการทางสมองด้วย เด็กจะเสียน้ำและเกลือแร่ไปมากจากการอาเจียนจึงทำให้ช็อกและตายในที่สุด ในสมัยโบราณเด็กมักจะเสียชีวิตลงเพราะไม่มีการให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดเหมือนในปัจจุบัน

สิ่งที่สัมพันธ์กับอาการที่โบราณกล่าวถึง เช่นที่เกี่ยวกับ นก สัตว์ร้อง สัตว์ขบกัดกัน มีคนนำสัตว์มาหา มีคนพูดถกเถียงกัน และเสียงลมพัดเสียงฟ้าร้อง แสดงให้เห็นว่า เป็นโรคที่มีการแพร่กระจายติดต่อกันได้ทางธรรมชาติ ที่มาจากนก คน สัตว์ โรคปักษีทำโทษ จึงน่าจะเป็นการระบาดของเชื้อไวรัสตามฤดูกาลที่สามารถติดต่อกันได้ระหว่างคนและสัตว์ ดังนั้น สมุนไพรที่รักษาปักษีกระทำโทษ หากมีการค้นคว้าศึกษาต่อไป ก็จะเป็นประโยชน์ในการรักษาโรคจากเชื้อไวรัสที่ติดต่อกันตามฤดูกาลในระหว่างคนและสัตว์ได้

มนุษย์ที่เกิดมา ตั้งแต่กำเนิดย่อมมีจุดอ่อนทางกรรมพันธุ์ที่โบราณเรียกว่า เจ้าเรือน

ปัจจุบันสามารถทราบได้ว่าในบางคนมีรหัสพันธุกรรมที่บกพร่องอยู่บางส่วน หรือมีลักษณะเฉพาะโรคนั้นๆ เพราะมีการศึกษาเกี่ยวกับรหัสพันธุกรรมกันมากขึ้น การรักษาจะมีประสิทธิภาพเพราะรักษาได้ตรงกับโรค อาจเป็นเวลานานมาแล้วที่มนุษย์ต้องเผชิญกับเชื้อไวรัส และผู้ที่อ่อนแอก็ย่อมติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนที่มีสุขภาพแข็งแรง โดยเฉพาะเด็กที่ยังมีภูมิต้านทานของร่างกายต่ำก็จะติดเชื้อจากการระบาดของโรคได้ง่ายขึ้น การศึกษาค้นคว้ายารักษาโรคในปัจจุบันหากได้นำประสบการณ์ของคนโบราณที่มีความใกล้เคียงกันมาใช้ ก็จะทำให้เกิดประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น

ที่มา:จากหนังสือวิทยาศาสตร์ในการแพทย์แผนไทย
โดยอาจารย์แพทย์หญิงเพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ
รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า