สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

เครนิโอเซครัล เธราพี(CranioSacral Therapy)

เป็นเทคนิคการใช้มืออย่างนุ่มนวลเพื่อค้นหาและแก้ไขความไม่สมดุลในระบบเครนิโอเซครัล ที่อาจก่อให้เกิดความผิดปกติในเรื่องการรับสัมผัส การเคลื่อนไหว หรือการใช้สมอง โดยไม่รุกล้ำเข้าไปในร่างกาย

ระบบเครนิโอเซครัล เป็นระบบทางสรีรวิทยาที่ประกอบด้วยสมอง เส้นประสาทไขสันหลัง ของเหลวที่มีอยู่ในสมองและในไขสันหลัง เรียกว่า ซีรีโรสสปีนัล ฟลูอิด(cerebrospinal fluid) เยื่อหุ้มสมองเครเนียล ดูรัล(cranial dural membrane) กระดูกหุ้มสมอง(cranial bones) และเซครัม(sacrum) หรือกระดูกตรงกระเบนเหน็บ มันเป็นระบบไฮดรอลิคชนิดปิดที่มีการเคลื่อนไหวของของเหลวอยู่ภายใน มีความผันผวนตามจังหวะ แม้จะน้อยแต่ก็พอวัดได้ ที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ และในสัตว์ที่มีสมองและเส้นประสาทไขสันหลัง

ในตอนต้นทศวรรษที่ 1900 นักศึกษาวิชาแพทย์แผนออสธีโอพาธิค(osteopathic)ในเมืองเคิร์คแลนด์ รัฐมิสซูรี ของสหรัฐอเมริกา ที่มีชื่อว่า วิลเลียม จี. ซุทเธอร์แลนด์(William G. Sutherland) ได้มีความคิดขึ้นมาเนื่องจากได้สังเกตว่า ในกะโหลกศีรษะมีกระดูกบางชิ้นที่มีส่วนลาดลงอย่างชัดเจนในบริเวณหนึ่ง เขาให้เหตุผลในเรื่องนี้ว่า กระดูกที่ลาดลงพวกนี้ถูกกำหนดมาให้เคลื่อนไหวโดยสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

ดร. ซุทเธอร์แลนได้ครุ่นคิดถึงเรื่องกระดูกกะโหลกศีรษะที่เคลื่อนที่ได้ในร่างกายมนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วมาเป็นเวลากว่า 20 ปีทีเดียว และได้ลองออกแรงกดที่ส่วนต่างๆ บริเวณศีรษะของตัวเองโดยใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะเหมือนกับหมวกครอบศีรษะของนักรบสมัยโบราณ และภรรยาของเขาจะคอยบรรยายถึงปฏิกิริยาต่างๆ ระหว่างการทดลองของเขา ตามระยะเวลาที่กดกับความรุนแรงในการกด

และในเวลาต่อมา ซุทเธอร์แลนด์ ก็ได้พัฒนาระบบการตรวจและรักษาโรคสำหรับกระดูกที่กะโหลกศีรษะขึ้นมา ระบบของซุทเธอร์แลนด์ เป็นสิ่งที่รู้จักกันในนามของ เครเนียล ออสทีโอพาธี(Cranial Osteopathy) แม้จะมีการบันทึกถึงความสำเร็จในการรักษาคนไข้ที่ดูราวปาฏิหาริย์ แต่มันก็ได้ชื่อแค่เพียงว่า เป็นลักษณะของลัทธิเชิงศาสนาเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้รับความเข้าใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่วิชาชีพทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านออสธีโอพาธิค ยังรู้สึกอับอาย

ในปี ค.ศ. 1970 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านออสธีโอพาธี ที่ชื่อ นายแพทย์จอห์น อี. อัพเลดเจอร์(John E. Upledger) ได้สังเกตในระหว่างการผ่าตัดที่คอของคนไข้รายหนึ่ง ว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะของเนื้อเยื่อที่ดูเหมือนจะหุ้มของเหลวอยู่ สิ่งที่เขาสังเกตเห็นไม่มีตำราการแพทย์ หรือผู้ร่วมงานคนใดสามารถให้เหตุผลของสิ่งนั้นได้ ต่อมาในขณะที่เข้าสัมมนาเกี่ยวกับเทคนิคการประเมินและการรักษาตามแผนเครเนียล ออสธีโอพาธี ของซุทเธอร์แลนด์ในปี ค.ศ.1972 ดร.อัพเลดเจอร์ก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด เขาจึงได้เข้าใจว่า ระบบของเหลวสามารถทำงานได้ภายในถุงเนื้อเยื่อหุ้มที่ฝังอยู่ในกะโหลกศีรษะและในคลองกระดูกสันหลัง สิ่งนี้กลายมาเป็นสิ่งที่รู้จักกันในนามของ ระบบเครนิโอเซครัล(Cranio-sacral system)

เชื่อกันว่าสมองส่งของเหลวภายในระบบเครนิโอเซครัลด้วยการขยายตัวและหดตัวไปทั่วสมอง และคลองกระดูกสันหลัง เซลล์ประสาทได้รับการจัดป้อนสารอาหารสดใหม่ที่จะทำให้มันมีสุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านกลไกการปั๊มและระบาย ในทำนองเดียวกับที่กล้ามเนื้อได้รับสารอาหารโดยผ่านทางกระแสโลหิต

ในปี ค.ศ.1975 ที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน ดร.อัพเลดเจอร์ และทีมนักวิจัยคณะหนึ่ง ได้ตั้งต้นวางรากฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์ให้กับระบบเครนิโอเซครัล และอธิบายการทำงานในแง่วิชาการ และในแง่ที่จะนำมาใช้ประโยชน์ในทางปฏิบัติได้ของมัน และได้แสดงให้เห็นว่า ระบบนี้สามารถนำมาประเมิน และจัดการแก้ไข้ปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ ได้มากมายนับไม่ถ้วน

มีนักวิชาชีพทางด้านการบำรุงรักษาสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ ทันตแพทย์ หมอจับกระดูก แพทย์ด้านออกธีโอพาธี นักกายภาพบำบัด หมอฝังเข็ม ผู้บำบัดรักษาโรคที่เนื่องมาจากอาชีพ และหมอนวดผู้ได้รับใบอนุญาต ต่างก็นำเอาการรักษาบำบัดด้วยระบบเครนิโอเซครัลนี้มาใช้

วิธีการนี้ทำได้ด้วยการใช้มือคลำเพื่อประเมิน และรักษาผู้ป่วย แม้ว่ากระดูกทุกชิ้นที่สันหลัง และเชิงกรานจะสามารถใช้ตรวจได้ แต่การเคลื่อนไหวของเครนิโอเซครัล จะคลำพบได้ง่ายที่สุดในกระดูกที่กะโหลกศีรษะ กระเบนเหน็บ และที่กระดูกก้นกบ เนื่องจากมันติดอยู่กับเยื่อบุที่หุ้มของเหลวในระบบสมอง-ไขสันหลัง หรือซีรีโบรสปีรัล ลิควิด อยู่ สำหรับนักบำบัดที่ได้ผ่านการฝึกมาแล้วจะสามารถรู้สึกถึงจังหวะของระบบเครนิโอเซครัลได้อย่างชัดเจนเท่ากับจังหวะของระบบหายใจและหัวใจ-หลอดโลหิต

ความสามารถของผู้ให้การบำบัดตามแบบเครนิโอเซครัล จะมีประโยชน์อย่างมากต่อการบำบัดรักษา ที่สามารถรับรู้และติดตามการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยของระบบเครนิโอเซครัลได้ โดยใช้การสัมผัสอย่างแผ่วเบา และการจับอย่างอ่อนโยน ผู้บำบัดรักษาก็สามารถจัดการบรรเทาหรือขจัดความตึงเครียดที่อยู่ภายในระบบที่ประณีตละเอียดอ่อนนี้ได้ ด้วยการทำให้กิจกรรมทางสรีรวิทยาที่มีอยู่ในร่างกายแต่เดิมเข้ามาช่วยแก้ไขตัวเองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

วิธีการนี้ใช้ในการบำบัดปัญหาสุขภาพมากมายหลายอย่าง มีการนำมาประสานกับกายภาพบำบัดที่คอหรือกระดูกสันหลัง เพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะ อาการเคล็ดที่คอและกระดูกสันหลัง บ่อยครั้ง และยังนำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการทีเอ็มเจ ปัญหาที่หูและตา ปัญหาเรื่องการทรงตัว หรือมีความยุ่งยากในการเรียนรู้ ดิสเล็กเซีย ไฮเปอร์แอ็คทีฟ และอื่นๆ สำหรับคนที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะหรือคอจะมีประโยชน์มากเป็นพิเศษ

ผู้รักษาบำบัดแบบเครนิโอเซครัล สามารถใช้ประโยชน์จากผลกระทบของสิ่งที่รู้กันในนามของ “การคลาย” ที่ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดบาดแผล ความเจ็บปวด ด้วยการสร้างท่าเดิมที่เคยเป็นตอนที่เกิดความบาดเจ็บนั้นขึ้น เมื่อความตึงเครียดถูกขจัดไป ร่างกายส่วนที่ทำงานผิดปกติ หรือที่เจ็บปวดก็จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ การคลาย จะทำหน้าที่เหมือนกับเป็นกลไกในการแก้ไขตัวเอง

ได้มีการค้นพบจากผู้รักษาบำบัดว่า หากพวกเขาสามารถสนับสนุนทางสรีระ และติดตามความเคลื่อนไหวของลูกค้า ผลกระทบจากการคลายก็จะเกิดขึ้นมาเอง และในขณะเดียวกันก็จะรักษาการติดต่อกับจังหวะของเครนิโอเซครัลของลูกค้าเอาไว้

ไม่ว่าจะอยู่ในท่าใดๆ ก็สามารถทำให้เกิดการคลายขึ้นมาได้ สำหรับผู้บำบัดที่ละเอียดอ่อนที่ตามการเคลื่อนไหวของลูกค้าและติดต่อสัมผัสกับจังหวะเครนิโอเซครัลได้พร้อมกัน จะทำท่าเหมือนกับการเคลื่อนไหวแบบการรำมวยจีน จำต้องอาศัยความแคล่งคล่องในระดับหนึ่งในกระบวนการนี้ ผู้บำบัดต้องเป็นผู้ที่มีความละเอียดอ่อนมากทีเดียว เมื่อลูกค้ารับรู้ได้ว่าผู้บำบัดติดตามการเคลื่อนไหวของเขาได้อย่างแม่นยำแล้ว ก็จะเข้าสู่การคลายและระบายความเจ็บปวดเหล่านี้ออกมาเอง

มีบ่อยๆ ในระหว่างกระบวนการคลาย ที่เกิดความตระหนักในอารมณ์ หรือเกิดความทรงจำหวนรำลึกถึงชั่วขณะที่ร่างกายได้บรรลุถึงท่าที่เหมือนกับที่เคยเป็นตอนที่เกิดความเจ็บปวดทรมานขึ้น ขณะที่พลังงานที่เก็บอยู่ในร่างกายที่มีสาเหตุจากความทุกข์ทรมานเริ่มระบายออก การปิดกั้นที่ส่งผลให้เกิดการทำงานในร่างกายที่ผิดพลาดก็เริ่มจะคลาย หรือระบายออกมา

การทำงานของระบบเครนิโอเซครัล มีข้อมูลเพิ่มเติมที่จะอธิบายโดยละเอียดถึงการทำงานของระบบนี้ ซึ่งมีอยู่ในหนังสือตำรา 3 เล่ม ที่ ดร.อัพเลดเจอร์เขียนขึ้น มีชื่อเรื่องว่า CranioSacral Therapy I(เครนิโอเซครัลบำบัดเล่ม 1) CranioSacral Therapy II(เครนิโอเซครัลบำบัดเล่ม 2) และหนังสือเรื่อง Somato-Emotional Release and Beyond(การระบายอารมณ์จากภายในและถัดจากนั้น)

ได้จัดให้มีการฝึกสอนผู้ประกอบวิชาชีพในด้านการบำรุงรักษาสุขภาพอย่างเช่น แพทย์ หมอนวด นักกายภาพบำบัด และบุคคลอื่นๆ ที่จะได้รับประโยชน์จากการบำบัดรักษาตามแบบเครนิโอเซครัล เธราพี นี้ที่สถาบันอัพเลดเจอร์

สถาบันอับเลดเจอร์ มีคลินิกชื่อ เฮลธ์เพล็กซ์ คลินิก(HealthPlex Clinic)อยู่ที่พาล์ม บีซ การ์เดนส์(Palm Beach Gardens) ในฟลอริดา และจัดโปรแกรมการบำรุงรักษาสุขภาพต่างๆ หากมีความสนใจสามารถติดต่อขอรายละเอียดได้ที่สถาบันอัพเลดเจอร์ ตามที่อยู่ดังนี้
Upledger Institute
11211 Prosperity Farms Road,
Palm Beach Gardens, FL 33410-3487
USA.
(407) 622-4334

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า