สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

อาหารแบบด็องเพื่อรักษาโรคข้ออักเสบ

อาหารแบบด็อง(Dong Diet)
เป็นแผนทางโภชนาการที่ใช้ในการรักษาโรคข้ออักเสบ โดยการใช้อาหารจีนดั้งเดิมที่มีเส้นใยสูงและไขมันต่ำเป็นหลัก ซึ่งประกอบไปด้วย ผักสด ข้าวจ้าว ปลา และไก่อีกนิดหน่อย

นายแพทย์โคลิน เอช. ด็อง (Colin H. Dong) ซึ่งเป็นบัณฑิตจากสถาบันแพทย์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในสหรัฐอเมริกา คือผู้ที่พัฒนาอาหารแบบด็องขึ้น หลังจากที่เป็นแพทย์มาได้นาน 7 ปี ขณะที่มีอายุได้ 35 ปี เขาได้พบว่าตัวเองอ้วนเกินไป และป่วยด้วยอาหารข้ออักเสบอย่างแรง และเป็นโรคผิวหนังอักเสบด้วย ตลอดระยะเวลาสามปีเขาได้กินยาแอสไพรินและยาแก้ปวดที่คล้ายกันมากมายเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดทรมานจากโรคที่เป็นอยู่ แต่ยาเหล่านี้ก่อให้เกิดผลข้างเคียงอย่างรุนแรงและไม่ได้ทำให้อาการของเขาทุเลาลงเลย

ต่างก็พากันพิศวงงงงันในหมู่เพื่อนนายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิของ ดร.ด็อง พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมโรคข้ออักเสบของ ดร.ด็อง จึงได้เลวร้ายลงมากเช่นนั้น และพวกเขาก็ให้คำแนะนำสุดท้ายแก่ ดร.ด็องว่าให้ลองไปหาจิตแพทย์ ดร.ด็องจะไปหาจิตแพทย์จริงหรือไม่อาจไม่สำคัญไปกว่าอาการของ ดร.ด็องไม่อาจรักษาได้ด้วยแพทย์แผนปัจจุบันทั่วไป

ดร.ด็องต้องทุกข์ทรมานอยู่กับโรคนี้ตลอดระยะเวลาสามปี เขาได้อ่านข้อเขียน งานวิจัยและหนังสือที่เกี่ยวกับโรคข้ออักเสบทุกเล่มก็ว่าได้ ในหนังสือได้อธิบายวิธีการที่เขานำมาใช้แล้วไม่ได้ผล เมื่อการรักษาตามแพทย์แผนปัจจุบันใช้ไม่ได้ผลแน่ จึงคิดว่าเขาต้องเผชิญกับการใช้ชีวิตที่เหลือนั่งอยู่แต่ในเก้าอี้เข็น จึงคิดที่จะหาวิธีรักษาตัวเองให้ได้

ดร.ด็องจึงได้นึกถึงคำพูดของบิดาที่เคยพูดอ้างถึงคำพังเพยเก่าแก่ของชาวจีนที่ว่า “ความป่วยไข้เข้ามาทางปาก และหายนะ ก็ออกมาจากปาก” ขึ้นมาได้ เขานึกย้อนไปว่าเขาและทุกคนในครอบครัวต่างก็แพ้อาหารอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยกันทั้งนั้น และทราบมาว่าการแพทย์แผนโบราณของจีนสามารถรักษาอาการแพ้ทั้งหลายได้มาเป็นเวลานานหลายร้อยปีแล้ว

หลังจากที่เขาเริ่มรักษาคนไข้ในปี ค.ศ.1931 เขาได้เริ่มตระหนักว่า อาหารการกินของเขาเปลี่ยนไป เขากินอาหารแบบคนที่มีฐานะดีอย่างที่คนอเมริกันกินกันเป็นประจำ ซึ่งเป็นอาหารที่แตกต่างจากที่เขาได้รับการเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมามาก ซึ่งเมื่อตอนเด็กๆ เขาได้รับประทานอาหารพวกข้าวเจ้า กับผัก ปลา ไก่ หมู และเนื้อ

ต่อมาเขาก็ได้ตัดสินใจกินอาหารซึ่งประกอบด้วยข้าวเจ้า ผักชนิดต่างๆ และเนื้อชนิดธรรมดาๆ ที่เขาเรียกว่า “อาหารคนจน” ตอนแรกก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้ผลดี แต่อาการของเขาเริ่มดีขึ้นเมื่อได้กำจัดอาหารและยาชนิดต่างๆ ออกไป และเขาก็ได้พบว่าอาหารที่จะได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับเขาประกอบไปด้วย ข้าวเจ้า ผักและอาหารทะเล

การเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งก็เริ่มเกิดขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ เมื่ออาการปวดจนนอนไม่หลับของเขาได้หายไป เขาสามารถที่จะโกนหนวดและเล่นกอล์ฟได้อีกครั้ง ผิวพรรณก็เริ่มผ่องใสขึ้น น้ำหนักตัวของเขาที่มีถึง 195 ปอนด์ ก็ลดลงเหลือแค่ 150 ปอนด์

ดร.ด็องได้ออกกำลังกายด้วยการเล่นกอล์ฟทุกเช้า และยังคงรับรักษาคนไข้อีกประมาณวันละ 30-40 คนเป็นประจำทุกวันแม้จะมีอายุ 71 ปีแล้ว และดำรงชีวิตอยู่อย่างกระฉับกระเฉงเพียบพร้อม

โรคไขข้อมีสาเหตุมาจากปฏิกิริยาของอาการแพ้อาหารสดชนิดต่างๆ รวมทั้งอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมาแล้ว ที่ประกอบไปด้วยสารเคมีที่ใช้ในการถนอมอาหาร สี กลิ่นสังเคราะห์ และสารเคมีชนิดอื่นๆ ที่ใส่เสริมลงในอาหาร ซึ่งนี่คือความเชื่อของ ดร.ด็อง

ตามหลักปรัชญาอาหารแบบด็องจึงกำหนดให้งดอาหารดังต่อไปนี้
-อาหารทุกชนิดที่ใส่สารเคมี โดยเฉพาะผงชูรสหรือโมโนโซเดียมกลูตาเมต
-สารกันบูด
-เนื้อชนิดต่างๆ
-ผลไม้
-มะเขือเทศ
-ผลิตภัณฑ์จากนมทุกชนิด
-เครื่องเทศที่ร้อนแรง
-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะไวน์
-ถั่วนัท
-ผลิตภัณฑ์จากช็อกโกแลต
-กรดแรงๆ ทุกชนิด เช่น น้ำส้มสายชู
-น้ำอัดลม

นายแพทย์โคลิน เอช.ด็อง ได้เขียนหนังสือที่ดีไว้สองเล่ม คือเรื่อง The Arthritis’s Cookbook หรือตำราปรุงอาหารของผู้ป่วยที่เป็นโรคข้ออักเสบ และเรื่อง New Hope for the Arthritis หรือความหวังสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคข้ออักเสบ ซึ่งเป็นหนังสือที่ให้ข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับโภชนาการแบบด็องอยู่ในนั้น

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า