สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

อาหารตามแผนการกินชั่วชีวิตแบบพริทิคิน

อาหารสูตรพริทิคิน(Pritikin Diet)

แผนการรับประทานอาหารชั่วชีวิตแบบพริทิคิน(Pritikin Lifetime Eating Plan) หรืออาหารแบบพริทิคิน เป็นโปรแกรมที่ประกอบด้วยอาหารและการออกกำลังกายแบบแอโรบิค

อาหารแบบพริทิคินจะมีไขมัน คอเลสเตอรอล และคาร์โบไฮเดรตชนิดปรุงแต่งสูง เช่น น้ำตาลทราย และแป้งฟอกขาวในปริมาณต่ำ แต่ไม่ใช่อาหารมังสวิรัติ เป็นอาหารที่เน้นปริมาณคาร์โบไฮเดรตชนิดที่อุดมไปด้วยเส้นใยและไม่ได้ปรุงแต่งในปริมาณสูง เช่น ผัก ผลไม้และธัญพืชชนิดต่างๆ

อาหารพริทิคิน เป็นอาหารที่มีการแปรรูปน้อยที่สุด หรือคงรูปเดิมอย่างที่มันถูกปลูกขึ้นมา อาจจะรับประทานดิบๆ หรือแค่ทำให้สุกเท่านั้น การบริโภคเนื้อและปลาจำกัดไว้ไม่เกินหนึ่งในสี่ของหนึ่งปอนด์ต่อวัน ซึ่งหลักการเหล่านี้มีมากว่านับร้อยๆ ปีมาแล้ว ที่ทำให้คนมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และดำเนินชีวิตอย่างสุขสบาย ซึ่งอาหารเหล่านี้จะทำให้เกิดโรคหัวใจ อาการสมองขาดโลหิต ข้ออักเสบ โรคเก๊าท์และเบาหวาน ได้น้อยมาก

ถ้าจะให้ดีตามอุดมคติแล้ว เมื่ออายุได้ 2 ขวบ ควรเริ่มต้นรับประทานอาหารตามแผนการกินชั่วชีวิตแบบพริทิคิน และให้ทานแบบนี้ไปชั่วชีวิต เพราะมันเป็นอาหารที่บำรุงรักษาสุขภาพเป็นอย่างดีของหัวใจ-หลอดโลหิต และสามารถควบคุมน้ำหนักในอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้

จะมีการพลิกแพลงแผนการกินชั่วชีวิตนี้ไปบ้าง เพื่อเป็นการ ปรับแต่ง แผนการกินชั่วชีวิต เพื่อการบำบัดรักษาสำหรับคนที่จำเป็นต้องควบคุมหรือแก้ไขโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือเบาหวาน อาหารแบบปรับแต่งนี้ จำกัดการบริโภคโปรตีนชั้นสูงเอาไว้เพียงแค่สัปดาห์ละประมาณ 100 กรัม และลดอาหารประจำวันที่บริโภคให้มีระดับแคลอรีรวมลดลง ซึ่งการปรับแต่งนี้ทำกันอยู่ที่ศูนย์อายุวัฒนะพริทิคิน(Pritikin Longevity Center)

ประโยชน์เพิ่มเติมอย่างอื่นของอาหารแบบพริทิคินคือ ทำให้มีผิวพรรณหน้าตาที่อ่อนกว่าวัย มีพลังวังชา และมีชีวิตชีวามากขึ้น ช่วยลดผลจากกระบวนการชราวัยร้ายๆ หลายอย่างให้น้อยลง ทำให้ร่างกายมีความฉับไวในการรับสัมผัสต่างๆ เพิ่มขึ้น

นาธาน พริทิคิร(Nathan Pritikin) ได้ตรวจตราเอกสารลับต่างๆ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่แสดงให้เห็นว่า ในช่วงสงครามความตายจากโรคหัวใจและเบาหวานในยุโรปได้ลดลงอย่างมาก ความสนใจของเขาถูกกระตุ้นด้วยข้อมูลนี้ เพราะความเครียดเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ นี่คือสิ่งที่เขาได้รับการสอนมา และเขาคิดว่าคงจะมีสถานการณ์เพียงไม่กี่อย่างที่เครียดยิ่งกว่าสงคราม

กลางทศวรรษที่ 1950 พริทิคินได้ค้นพบว่าเขาเป็นโรคหัวใจ เมื่ออายุ 42 หลังจากที่ไปรับการตรวจจากผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจแล้ว มีปัญหาที่เส้นโลหิตใหญ่ในการนำเลือดไปเลี้ยงหัวใจ และเมื่อเขาได้ทำการค้นคว้าอย่างกว้างขวางก็เชื่อว่าจำเป็นต้องลดระดับคอเลสเตอรอลลงให้ต่ำกว่า 160 แต่เมื่อเขาไปขอความช่วยเหลือจากแผนกโภชนาการของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ก็ได้รับคำตอบว่า คอเลสเตอรอลเป็นสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้ และจะเป็นอันตรายหากพยายามจะควบคุม เขาจึงยอมเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงโดยการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอาหารการกินเอง

พริทิคินได้กลายเป็นนักมังสวิรัติจนถึงปี ค.ศ.1958 และสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลให้ลดลงเหลือ 162 แต่การทำงานของหัวใจก็ไม่ได้ดีขึ้น ต่อมาในปี 1960 คอเลสเตอรอลของเขาลดต่ำลงเหลือ 120 และการทำงานของหัวใจเขากลายเป็นปกติจากการวัดหัวใจด้วยไฟฟ้า

พริทิคินได้ขยายโปรแกรมการเดินเพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของโลหิตที่เข้าไปเลี้ยงหัวใจ และต่อมาก็ได้เริ่มวิ่งเหยาะๆ จนเขาสามารถวิ่งติดต่อกันได้นานถึง 1 ชั่วโมงในปีใน 1965

ในปี 1976 ได้มีการเปิดศูนย์อายุวัฒนะพริทิคิน(Pritikin Longevity Center) ขึ้น ในซานตาบาร์บาร่า แคลิฟอร์เนีย ซึ่งการดำเนินงานของศูนย์ดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า มีโรคสำคัญๆ ถึง 20 โรค ที่ตอบสนองต่อการบำบัดรักษาโดยใช้โภชนาการ

ศูนย์อายุวัฒนะพริทิคิน มีโปรแกรมการใช้อาหารและการออกกำลังกาย ที่มีการดูแลอย่างใกล้ชิด แบบโปรแกรม 13 วัน กับ 26 วัน สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและเบาหวานชนิดอย่างอ่อนๆ กับที่เป็นรุนแรง ปัจจุบันศูนย์นี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับทะเลในซานตา มอนิก้า แคลิฟอร์เนีย

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารแบบพริทิคินและโปรแกรมพริทิคินอ่านได้จากหนังสือ ชื่อ Pritikin Program for Diet and Exercise ของนาธาน พริทิคิน และชื่อ The New Pritikin Program ของโรเบิร์ต พริทิคิน ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านขายหนังสือทั่วไป หรือหาอ่านได้จากห้องสมุด หรือติดต่อขอข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมเข้ารับการรบำบัดแบบพริทิคินและที่เกี่ยวกับศูนย์อายุวัฒนะพริทิคิน ได้ตามที่อยู่ดังนี้
Pritikin Longevity Center,
1910 Ocean Front Walk,
Santa Monica, CA 900405,
USA.

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า