สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

อาหารสูตรข้าวเพื่อบำบัดรักษาโรค

อาหารสูตรข้าวตามตำรับของเคมป์เนอร์(Kempner Rice Diet) หรือไรซ์ ไดเอ็ท เป็นอาหารสูตรพิเศษเพื่อใช้เป็นวิธีการบำบัดรักษาโรค ซึ่งมีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่สูง ไขมันต่ำ เส้นใยสูง และโซเดียมต่ำ

อาหารตำรับนี้ใช้วิธีการที่ยึดหลักวิทยาศาสตร์อย่างมาก ไม่ใช่แค่สูตรอาหารประเภทที่ช่วยเหลือตัวเองแบบง่ายๆ แต่เป็นการใช้อาหาร การพักผ่อน และการออกกำลังกายที่ถูกต้องและเหมาะสมเพื่อปรับปรุงและบำรุงรักษาสุขภาพ

ตำรับอาหารเพื่อการรักษาโรคที่มีชื่อเสียงที่รู้จักกันทั่วไปในรูปแบบอื่นๆ เช่น อาหารตามสูตรของพริทิคิน อาหารแบบแม็คโครไบโอติด อาหารตามแบบแผนของเม็คดูกัลป์ และอาหารแบบย้อนกลับของดร.ดีน ออร์นิชแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมาจากหลักการของอาหารสูตรข้าวแบบเคมป์เนอร์

นายแพทย์วอลเตอร์ เคมป์เนอร์(Walter Kempner) คือผู้ที่ให้กำเนิดอาหารสูตรนี้ ซึ่งท่านได้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ในปี ค.ศ.1926 และเป็นบุตรของนักวิจัยด้านการแพทย์ที่มีชื่อคนหนึ่ง ทางมหาวิทยาลัยดุ๊ก ในเมืองดูแรม รัฐแคโรไลน่าเหนือของสหรัฐอเมริกาได้ว่าจ้างเขามาทำงานด้วยในขณะที่เขาทำงานอยู่ที่สถาบันแพทย์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเบอร์ลิน โดยให้ทำงานในหน้าที่วิจัยและสอนนักศึกษา การใช้อาหารเพื่อรักษาโรคหัวใจเขาก็ได้ทำเป็นคนแรก และมีการสนับสนุนให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกายเป็นคนแรกด้วยเช่นกัน

นายแพทย์วอลเตอร์ เคมป์เนอร์ ได้รักษาผู้ป่วยหญิงวัย 33 ปี ที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคไต และอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคดังกล่าวในปี ค.ศ.1939 นายแพทย์เคมป์เนอร์ ได้ให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารสูตรข้าวหรือไรซ์ไดเอ็ตเป็นเวลานาน 2 สัปดาห์เมื่อออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว และคนไข้ไม่ได้กลับมาให้แพทย์ตรวจภายใน 2 สัปดาห์ เนื่องจากฟังสำเนียงคนเยอรมันอย่าง ดร.เคมป์เนอร์ ได้ไม่สันทัด จนทำให้เกิดการเข้าใจผิดขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว 2 เดือน คนไข้รายนั้นก็กลับมาพบแพทย์อีก

ในช่วงเวลา 2 เดือนที่เธอได้รับประทานอาหารตามตำรับที่ ดร.เคมป์เนอร์สั่งไป ผลลัพธ์จากการตรวจร่างกายพบว่า ความดันโลหิตลดลงมาก จอตาที่มีอาการเลือดออกก็หายสนิท หัวใจมีขนาดลดลงอย่างชัดเจนจากที่เคยโตมาก่อน

ผู้ป่วยรายอื่นๆ ที่เป็นโรคไต และโรคที่ทำให้มีความดันในหลอดเลือดสูงจึงได้รับการสั่งยาแบบใหม่ให้อยู่ในรูปของอาหาร เนื่องจากความสำเร็จจากคนไข้รายแรกของ ดร.เคมป์เนอร์ นั่นเอง

ในปี ค.ศ. 1944 ดร.เคมป์เนอร์ ได้รับการยอมรับในระดับชาติ หลังจากมีรายงานถึงผลลัพธ์ทางคลินิกในการบำบัดรักษาผู้ป่วย 150 คนแรกต่อที่ประชุมสมาคมหัวใจของอเมริกันในชิคาโก ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่า ไตทำงานได้ดีขึ้น ความดันโลหิต ขนาดของหัวใจ ระดับคอเลสเตอรอล ลดลง อาการบวมน้ำหรืออ้วนฉุหายไป การทำงานของหัวใจดีขึ้น โรคที่เกี่ยวเนื่องกับหลอดโลหิตที่จอตาหายไปหรือดีขึ้น สามารถทำให้โรคเรื้อรังบางอย่างทุเลาลงหรือหายได้ ด้วยวิธีการรักษาด้วยอาหาร

ดร.เคมป์เนอร์ได้รายงานถึงผู้ป่วยที่หายจากอาการที่ส่อหรือบ่งชี้ถึงภาวะหัวใจที่มีการคั่งจนอาจหยุดการทำงานได้ใน 3 ปีต่อมา และเขาได้พิสูจน์ได้ว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ใช้อินซูลินสามารถใช้อาหารเพื่อปรับระดับน้ำตาลให้สู่ระดับปกติได้ในปี ค.ศ.1958 โดยที่ผู้ป่วยอาจใช้ในปริมาณที่น้อยลง หรือไม่ต้องใช้อินซูลินอีกต่อไป

สูตรอาหารข้าวตามแบบของเคมป์เนอร์เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง สามารถใช้รักษาโรคอ้วนได้ในช่วงทศวรรษที่ 1950 และเมืองดูแรม รัฐแคโลไลน่าเหนือก็เริ่มเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของอาหารสูตรพิเศษของโลก ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยดุ๊กที่นายแพทย์เคมป์เนอร์ได้ทำงานอยู่

ในปี ค.ศ.1991 ได้รับการรับรองและแนะนำให้รับประทานอาหารชนิดเดียวกันนี้เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและโรคมะเร็ง จากคณะกรรมการแพทย์เพื่อการแพทย์ที่รับผิดชอบ หรือ Physicians Committee for Responsible Medicine

นายแพทย์เคมป์เนอร์ได้ลาออกจากตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษประจำศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยดุ๊ก ในเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ.1992 เมื่อมีอายุได้ 89 ปี ซึ่งเขาได้ทำหน้าที่มาเป็นเวลากว่า 50 ปี ในตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการอาหารสูตรข้าว

โปรแกรมอาหารสูตรข้าวนี้ ผู้ป่วยจะต้องมาพักที่โรงพยาบาลหรือสถานบำบัด ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจร่างกายเชิงประเมินและวินิจฉัยโรคอย่างละเอียดเมื่อมารับการรักษา และหลังจากที่ได้ตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้วผู้ป่วยจะได้รับการบำบัดรักษาในทันที

ไม่มีมาตรฐานแน่นอนของระยะเวลาในการบำบัด ซึ่งผู้ป่วยบางรายอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ หลายเดือน หรือบางครั้งอาจต้องใช้เวลานานถึงปีหรือมากกว่านั้นในการบำบัดรักษา และผู้ป่วยส่วนใหญ่จะได้รับการบอกกล่าวให้วางแผนการเข้าพักรักษาที่สถานบำบัดประมาณ 3-4 เดือนเป็นอย่างน้อย

อาหารพื้นฐานที่ผู้ป่วยจะต้องรับประทานโดยไม่มีการหยุดชะงักประกอบด้วย ข้าวเจ้ากับผลไม้ล้วนๆ และดื่มน้ำ ผลไม้ ชา กาแฟดำที่สกัดคาเฟอีนออก ในปริมาณที่จำกัด น้ำตาลทรายอนุญาตให้รับประทานได้เนืองๆ จนกว่าระดับความดันโลหิต คอเลสเตอรอล น้ำตาลในโลหิตจะในระดับที่ดีที่สุด

และเพิ่มธัญพืชชนิดอื่นที่ไม่ใช่ข้าวเจ้า กับผักชนิดต่างๆ ให้กับอาหารสูตรพื้นฐานดังที่กล่าวมาแล้ว และอาจเพิ่มนมและโยเกิร์ตชนิดปลอดไขมันเพิ่มเข้าไป ซึ่งอาหารเพิ่มเติมนี้จะให้ในภาวะที่สุขภาพอยู่ในระดับดีเท่านั้น

การออกกำลังกายของผู้ป่วยเมื่อในขณะพักอยู่ที่สถานบำบัดส่วนใหญ่มักจะเป็นการเดินหรือว่ายน้ำ ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับการกำหนดชนิดการออกกำลังกายเป็นรายบุคคลไป

เมื่อครบโปรแกรมการรักษา ผู้ป่วยจะได้รับตำรับตารางอาหารชนิดที่จะช่วยบำบัดรักษาตัวกลับไปปฏิบัติต่อที่บ้านด้วย

อาหารสูตรข้าวตามแบบของเคมป์เนอร์ในปัจจุบันนี้ ยังคงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพอยู่ นอกเหนือไปจากการใช้ยาและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการรักษาอาการความดันโลหิตสูง อาการเจ็บหน้าอกเนื่องจากเส้นโลหิตหัวใจตีบ คอเลสเตอรอลสูง เบาหวาน ไตวายและโรคอ้วน

เกี่ยวกับโปรแกรมการเข้ารักษาตัวด้วยอาหารสูตรข้าว สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมโดยการติดต่อที่คลินิกเคมป์เนอร์ ศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยดุ๊ก ตามที่อยู่ข้างล่างนี้
Kempner Clinic,
Duke University Medical Clinic,
1821 Green Street,
Durham, NC 27705,
USA.

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า