ขึ้นชื่อว่าโรคมะเร็ง ทุกคนคงกลัวเพราะเป็นโรคที่ทำลายชีวิตมนุษย์มากขึ้นทุกที และสาเหตุของมะเร็งก็ยังไม่มีใครทราบแน่ชัด ได้แต่พบว่าสิ่งที่น่าจะเป็นสาเหตุมีอะไรบ้าง ซึ่งถ้ามองจากการศึกษาเกี่ยวกับพิษวิทยาและด้านอาหารแล้ว โรคมะเร็งจะมีสาเหตุมาจากพวกสารเคมีต่างๆ ในบุหรี่ ในโรงงานสารพิษ จากเชื้อรา รังสีเอ็กซเรย์ รังสีปรมาณู หรือจากพวกเชื้อโรค เช่น ไวรัส การค้นคว้าทางด้านอาหาร ก็พบเช่นกันว่า อาหารเป็นปัจจัย สำคัญต่อการเกิดโรคมะเร็ง และมีการศึกษาด้านนี้กันเพื่อหาทาง ป้องกันการเกิดมะเร็ง ซึ่งอาจทำได้โดยการกินสารอาหารบางชนิดให้มากกว่าเดิม และสารอาหารที่ศึกษากันมาก ว่าจะเป็นสารต้านมะเร็งได้คือพวกวิตามิน เกลือแร่จากผักและผลไม้
พบว่าอาหารพวกถั่วและผลไม้ เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ข้าว พืชผัก เมล็ดพืช ต่างๆ เหล่านี้ เป็นอาหารที่มีปริมาณใยอาหาร ในขณะที่พวกเนื้อสัตว์หรืออาหารพวกไขมันจะไม่มีใยอาหาร และตัวใยอาหารนี้จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนที่ของกากอาหาร ในลำไส้ให้ออกจากร่างกายเร็วขึ้น ทำให้สารพิษที่อาจจะมีอยู่ใน ทางเดินอาหารมีโอกาสถูกดูดซึม เข้ากระแสเลือดน้อยลง พวกฝรั่ง กินเนื้อสัตว์ กินไขมันมาก จึงเป็นมะเร็งของลำไส้มากกว่าคนไทย ซึ่งนิยมกินข้าวทั้งเมล็ด กินผักต้ม ผักดิบมากกว่า
นักโภชนาการแนะนำว่า ทางที่ดีเราควรหลีกเลี่ยงที่จะกิน อาหารที่มีแนวโน้มว่ามีสารก่อมะเร็งปะปนอยู่ หรือถ้าจะกินก็อย่ากินให้บ่อยนักเพื่อให้เวลาแก่ร่างกายที่จะกำจัดสารพิษออกจากร่างกายบ้าง เรายังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะบอกว่าสารพิษที่เข้าสู่ ร่างกายนั้นตกค้างอยู่นานเท่าใดในคนปกติ ดังนั้นท่านที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ซึ่ง 99% หรือ 100% ของถั่วคั่วปนที่ใช้ปรุง มี อัลฟ่าท็อกซิน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งปนอยู่ด้วยแน่ๆ ดังนั้นหากทนต่อความอยากกินไม่ไหว ก็จงกินเข้าไปเถิด แต่อย่ากินทุกวัน ถ้าโชคดีท่านจะปลอดภัย
อาหารประเภทปิ้ง ย่าง รมควัน เป็นอาหารอีกประเภทหนึ่ง ที่มีสารก่อมะเร็งเพราะการปิ้ง ย่าง รมควัน ทำให้เกิดสารพิษที่ เรียกว่า พี.เอ.เอช. (P.A.H.) หากกินอาหารประเภทนี้เป็นประจำทุกวัน จะมีโอกาสเป็นมะเร็งได้เช่นกัน แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องยกเลิก การกินอาหารพวกนี้เสียทีเดียว เพราะปริมาณสารพิษที่เกิดขึ้นค่อนข้างต่ำ ถ้ากินเป็นครั้งเป็นคราว สารพิษที่เข้าสู่ร่างกายจะถูกขับออกมาได้ทันก่อนจะเกิดอันตราย
ผู้ที่นิยมดื่มเหล้า เบียร์ และกินอาหารปิ้งย่างเป็นกับแกล้ม โดยเข้าใจว่าเป็นการกินอาหารโปรตีนเพื่อป้องกันอันตรายจากโรคตับแข็งนั้น ความจริงแล้วเป็นการเข้าใจผิด เพราะจะทำให้ พี.เอ.เอช. ยิ่งสะสมอยู่ในร่างกายนานกว่าปกติ เนื่องจากแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ร้าย ที่ทำให้ตับไม่แข็งแรง ดังนั้น พี.เอ.เอช. ที่กินเข้าไปจึงอาจสะสมอยู่ ในร่างกายได้นานกว่าปกติ เหตุผลดังกล่าวอาจตอบข้อสงสัยที่ว่า ทำไมผู้ที่ดื่มสุราและกินกับแกล้มประเภทปิ้ง ย่าง รมควัน จึงมี อัตราการเกิดมะเร็งตับค่อนข้างสูง
อาหารประจำวันของคนไทยอย่างข้าวสวยกับน้ำพริกปลาทู และผักจิ้มนั้น นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารมากแล้ว ยังมีใยอาหารซึ่งป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ด้วย ข้าวสวยจะให้แป้งซึ่งเป็นสารอาหารให้พลังงานและให้ใยอาหาร ปลาทูให้โปรตีนรวมทั้งธาตุไอโอดีนและไขมันของปลาก็มีไม่มากนัก ทำให้ปลอดภัยจากโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ส่วนผักต้มให้วิตามินบางชนิด และให้ใยอาหารพร้อมทั้งเกลือแร่ในตัวน้ำพริกเองก็มีทั้งโปรตีนและไอโอดีนจากกะปิ ในกระเทียมก็มีสารบางตัวที่อาจลดปริมาณคลอเรสเตอรอล หรือไขมันในเส้นเลือดได้
ข้อสรุป : กินอาหารต้านโรคมะเร็ง
- พยายามกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ คือ แป้ง เนื้อสัตว์ ไข่ นม ผัก ผลไม้ ไขมัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างเพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการดื่มสุราและสูบบุหรี่ เพราะทั้งสองสิ่งนี้จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ เปิดโอกาสให้สารพิษทำอันตรายได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการรับสารพิษต่างๆ ที่มีอยู่ในอาหาร น้ำและอากาศ