สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

อดีตของนักจิตบำบัด

การศึกษาอดีตของนักจิตบำบัด ก็ทำแบบเดียวกับคนไข้ คือ Organism, Ego และ Environment จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงอีก เพราะว่า เป็นเรื่องคล้ายกันกับของคนไข้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อความบางประเด็นที่ควรจะกล่าวถึง

ถ้านักจิตบำบัดหัดใหม่ เป็นนักจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์ แล้ว ไม่ค่อยจะมีปัญหา ในกรณีต่อไปนี้มาก แต่ถ้าเป็นแพทย์ หรือ พยาบาล มักจะมีปัญหาพิเศษ ทั้งนี้ เพราะแพทย์ พยาบาล มักจะคุ้นเคย หรือ สนใจต่อ “โรค” ต่างๆ มากกว่าสิ่งที่ท่านศาสตราจารย์ นายแพทย์ฝน แสงสิงแก้ว ผู้ล่วงลับไปแล้ว กล่าวว่า “ต้องสนใจคนทั้งคน” ได้มีการทดลองที่ต่างประเทศ โดยนำผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย มาให้นักศึกษา 2 พวกดู พวกแรก เป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย ส่วนพวกที่ 2 เป็นนักศึกษาจิตวิทยาปีสุดท้ายเหมือนกัน นักศึกษาแพทย์เป็นฝ่ายดูก่อน ปรากฏว่า นักศึกษาแพทย์ “แสดงความสนใจเป็นพิเศษ” เกี่ยวกับชนิดของมะเร็ง การลุกลามไปตามท่อน้ำเหลือง และอวัยวะอื่นๆ พร้อมทั้งวิพากษ์ วิจารณ์ และถกเถียงในทางวิชาการ ฯลฯ แต่หาได้มีนักศึกษาแพทย์คนใดสนใจ “เรื่องสำคัญ” ไม่!!!

ครั้นเมื่อนักศึกษาจิตวิทยาปีสุดท้าย เป็นผู้ดูผู้ป่วยคนเดียวกันนี้บ้าง นักศึกษาทุกคน จบ “เรื่องสำคัญ” ได้ ตั้งแต่วินาทีแรก คือ “คนไข้กำลังจะตาย !”

แต่อย่างไรก็ตาม แพทย์ส่วนมากที่สนใจจริงจัง จะสามารถเอาชนะจุดอ่อนในเรื่องนี้ได้ ในเวลาไม่นานนัก เว้นไว้เสียแต่ว่า แพทย์ผู้นั้น จะไม่ชอบวิชา จิตเวชศาสตร์ และจิตบำบัด

ที่มา:ปราโมทย์  เชาวศิลป์

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า