ป้องกันมะเร็งด้วยอาหารแมคโครไบโอติก

Goldin และคณะได้ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างผู้หญิงที่กินอาหารแมคโครไบโอติก กับอาหารอเมริกันแท้ๆ พบว่าผู้หญิงที่กินอาหารแมคโครไบโอติกมีระดับของเอสโตรเจนในอุจจาระสูง แต่ในปัสสาวะต่ำกว่า และมีระดับเอสตราไดออลในเลือดต่ำกว่า ทำให้ผู้หญิงที่กิน อาหารแมคโครไบโอติกเป็นมะเร็งเต้านมน้อยกว่า และมีผลการศึกษาที่ยอมรับว่าการมีระดับ เอสตราไดออลในเลือดและระดับการขับเอสโตรเจนทางปัสสาวะสูงเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม ดังนั้นจึงสามารถป้องกันมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน (Hormone-dependent cancer) เช่นเดียว กับที่ National Institute of Health’s National Center for Complementary and Alternative Medicine รายงานไว้

Adlercreutz และคณะพบว่าผู้หญิงที่กินอาหารแมคโครไบโอติกมีระดับของ ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogens) ได้แก่ Lignans (เช่น Enterolactone, Enterodiol) และ iflavonoids (เซ่น Daidzein Equol) ในปัสสาวะสูงกว่าในผู้หญิงที่กิน Lacto-ovo-vegetarian และที่กินเนื้อ (Omniverous) กลุ่ม Lactovegetarian มีระดับไฟโตเอสโตรเจนในปัสสาวะสูง กว่ากลุ่มที่กินเนื้อ 1.4-2.9 เท่า ในขณะที่กลุ่มแมคโครไบโอติกจะสูงกว่ากลุ่มกินเนื้อ 11-22 เท่า และสูงที่สุดใน 3 กลุ่ม ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมจะพบว่าระดับของไฟโตเอสโตเจนในปัสสาวะจะต่ำ แม้ว่าจะมีหลักฐานถึงผลดีของไฟโตเอสโตเจนในการป้องกันมะเร็งเต้านมและมะเร็งชนิดอื่นได้ แต่มีงานวิจัยอย่างน้อย 1 ชิ้นรายงานในทางตรงกันข้าม คือระดับไฟโตเอสโตเจนที่สูงในปัสสาวะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่า