สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

น้ำกระสายยาในตำราโอสถพระนารายณ์

1. ขัณฑสกร มักใช้ละลายยาเพื่อให้กินได้ง่ายขึ้น เพราะมีรสหวาน กลิ่นหอม ยาไทยจะใช้ขัณฑสกรที่ได้จากแหล่งธรรมชาติ ซึ่งจะมีสรรพคุณแตกต่างกันไปตามแหล่งที่ได้มา เช่น

-ขัณฑสกรที่ได้จากหยดน้ำค้าง ซึ่งจะหยดลงบนใบพืช เรียกว่า ต้นขัณฑสกร มีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง ปัสสาวะได้คล่องขึ้น แก้เสมหะในลำคอ แก้อาการกระหายน้ำ

-ขัณฑสกรที่ได้จากน้ำอ้อย มีสรรพคุณในด้านบำรุงธาตุ แก้อาการผอมเหลือง แก้ฝี

-ขัณฑสกรที่ได้จากรวงน้ำผึ้งที่เกิดริมทะเล ใช้แก้อาการท้องมาน นิ่ว สะอึก จุกเสียด แก้ไข้เซื่องซึม แก้ลมพิษ แก้อาการคอแห้ง

-ขัณฑสกรที่ได้จากเกสรบัวหลวง มีสรรพคุณเหมือนกับที่ได้จากหยดน้ำค้าง

การใช้ขัณฑสกรเป็นน้ำกระสายในตำราพระโอสถพระนารายณ์ จะใช้เพื่อแก้ธาตุไฟพิการในขนาน 1 และ 7

2. น้ำกระเทียม สรรพคุณของสมุนไพรกระเทียมมีอยู่หลายอย่าง เช่น ลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต ป้องกันการเต้นผิดจังหวะของหัวใจ ต้านมะเร็ง ลดน้ำตาลในเลือด เป็นต้น น้ำที่ได้จากการคั้นหรือต้มหัวกระเทียมจะใช้เป็นน้ำกระสายยาให้กินได้ง่ายขึ้น และช่วยเสริมฤทธิ์ยานั้นด้วย

3. น้ำขิง ช่วยแก้ไข้ แก้ลม แก้จุกเสียด แก้เสมหะ บำรุงธาตุ แก้คลื่นเหียน อาเจียน

4. น้ำจันทน์ขาว ช่วยบำรุงประสาท แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ แก้อาการตับ ปอด และดีพิการ เป็นต้น เป็นน้ำกระสายยาที่ช่วยเสริมฤทธิ์ยาในตำรับนั้น

5. น้ำชะเอม มีสรรพคุณแก้ไอ ขับเสมหะ แก้อาการคอแห้ง ทำให้ยามีรสหวานน่ากินจึงทำให้กินยาได้ง่ายขึ้น ชะเอมมีทั้งชะเอมไทย ชะเอมจีน และชะเอมเทศ แต่ชะเอมจีนมักจะนิยมใช้กันมากกว่า

6. น้ำซาวข้าว มักใช้เป็นน้ำกระสายของยาแก้ไข้ เพราะมีรสเย็น มีสรรพคุณถอนพิษสำแดง แก้พิษร้อนใน จะช่วยเสริมฤทธิ์ยาด้วย

7. น้ำดอกไม้ มีสรรพคุณแก้ลม บำรุงหัวใจ เป็นน้ำที่อบด้วยดอกไม้หอม เช่น ดอกมะลิ ดอกกระดังงา เป็นต้น มักใช้เป็นน้ำกระสายยาเพื่อทำเป็นยาแท่งหรือยาลูกกลอน หรือใช้ละลายยาให้กินได้ง่ายขึ้น

8.น้ำดอกไม้เทศ มีสรรพคุณแก้พิษไข้ แก้ร้อน แก้กระหาย แก้อ่อนเพลีย มักใช้กระสายในยาแก้อ่อนเพลีย ยาบำรุงกำลัง ส่วนมากเป็นน้ำมันดอกยี่สุ่น

9. น้ำนม น้ำนมโคมีสรรพคุณปิดธาตุ แก้โรคในอก บำรุงกำลังและเลือดเนื้อ เจริญไฟธาตุ ช่วยเสริมฤทธิ์เจริญไฟธาตุของยาอื่น มีรสหวาน มัน เย็น จึงช่วยละลายยาให้กินง่ายขึ้น

10. น้ำใบกล้วยตีบ เป็นลูกผสมของกล้วยป่ากับกล้วยตานี สรรพคุณของรากแก้กระหายน้ำ แก้ร้อนใน แก้พิษภายนอก ใบนำมาม้วนเป็นยาสูบใช้แก้ริดสีดวงจมูก หรือต้มน้ำอาบแก้ผื่นคัน น้ำใบกล้วยตีบที่นำมากระสายจะช่วยเสริมฤทธิ์ฝาดสมานของยาอื่นได้ด้วย

11. น้ำใบชา ในตำรับยาขัดปัสสาวะใช้ใบชาต้มเป็นน้ำกระสาย น้ำชามีรสฝาด ชุ่มคอ มีฤทธิ์ฝาดสมาน แก้ท้องร่วง ท้องเสีย ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ทำให้รู้สึกกระปรี้ประเปร่า

12. น้ำใบผักไห่ หรือมะระขี้นก มีรสขม มีสรรพคุณทำให้เจริญอาหาร ฟอกเลือด เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้โรคตับ ท่อน้ำดีอักเสบ จะทำให้อาเจียนหากกินเข้าไปมากๆ

13. น้ำผึ้งและน้ำผึ้งรวง เป็นทั้งอาหาร ยา และน้ำกระสายยา ซึ่งนิยมใช้กระสายยามากที่สุด โดยใช้ทาแผล ใช้ผสมยาผงปั้นเป็นลูกกลอน และกินเพื่อเป็นยาบำบัดโรค แก้สะอึก บำรุงกำลัง แก้ไข้ตรีโทษ ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ

14. น้ำมวกเขา เป็นน้ำจากหินย้อยที่แข็งตัวเป็นหินงอก เป็นสารละลายของหินปูนที่อิ่มตัว ตะกอนของหินปูนจะนอนก้นเมื่อตั้งทิ้งเอาไว้ แล้วใช้น้ำใสๆ นั้นมาทำน้ำกระสายยา ซึ่งมีรสเย็น ช่วยแก้พิษอักเสบ ปวดแสบปวดร้อน ดับพิษต่างๆ และห้ามเหงื่อ

15. น้ำมะงั่ว เป็นน้ำคั้นจากมะงั่ว มีรสเปรี้ยว ใช้ฟอกโลหิต ขับโลหิต แก้ไอ แก้ผิดสำแดง เป็นยาสมาน มะงั่วอีกชนิดหนึ่งที่ปุ่มปลายผลแยกเป็นง่ามคล้ายนิ้วมือ เรียกว่า ส้มโอมือ ผิวส้มโอแห้งในยาไทยมักใส่ไว้ในตลับทำเป็นยาดม แก้อาการหน้ามืด เป็นลม วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน

16. น้ำมะนาว ได้จากการคั้นน้ำมะนาว มีรสเปรี้ยว ใช้กัดเสมหะ ฟอกโลหิตประจำเดือนของสตรี น้ำมะนาวใช้ได้ทั้งเป็นยากระสายละลายยาอื่นกิน หรือใช้ผสมยาเพื่อปั้นให้เป็นแท่ง

17. น้ำมูตรโคดำ เป็นน้ำปัสสาวะของวัวตัวสีดำเพศผู้ จะมีรสเผ็ดร้อน เค็ม ฉุน ใช้เพื่อกระสายยา แก้อาการปวดร้าวระบม ช้ำใน ผอมเหลือง หืดไอ แก้ลมและโลหิต

18. น้ำร้อน เป็นน้ำที่ต้มให้เดือดจนสุก อาจเป็นน้ำฝนหรือน้ำสะอาดก็ได้ ในยาไทยจะใช้น้ำร้อนเพื่อกระสายยากันมาก ทำให้กินยาได้ง่ายขึ้น หรือใช้กระสายยาเพื่อปั้นให้เป็นแท่ง

19. น้ำส้มซ่า ได้จากการคั้นส้มซ่า มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยกัดฟอกเสมหะ แก้ไอ ใช้ฟอกโลหิต

20. น้ำส้มสายชู เป็นน้ำใสๆ ไม่มีสี หรือเป็นสีชาอ่อนๆ กลิ่นฉุน มีรสเปรี้ยว ใช้เพื่อขับปัสสาวะ ขับเสมหะ ดับร้อนในร่างกาย

21. น้ำอัษฎางคุลี เป็นน้ำผลไม้แปดอย่างคือ น้ำมะม่วง น้ำชมพู่หรือน้ำลูกหว้า น้ำกล้วยมีเมล็ด น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด น้ำมะซาง น้ำลูกจันทน์หรือน้ำองุ่น น้ำเหง้าบัว น้ำมะปรางหรือน้ำลิ้นจี่ ทำโดยปอกผลที่สุกเอาผ้าห่อ แล้วบีบให้น้ำออกมา แต่ถ้าเป็นผลที่ไม่มีน้ำให้ทุบพอบุบแล้วแช่น้ำ นำไปตากให้สุก แล้วค่อยบีบคั้นน้ำออกมา

22. สุรา มีรสเมา ใช้กระทุ้งพิษ ขับเลือดลม เมื่อใช้กระสายยาจะทำให้ยาแล่นเร็ว เหล้าที่ใช้จะเป็นเหล้าขาว วิสกี้ หรือบรั่นดีก็ได้ แต่ที่นิยมใช้คือ เหล้าขาว

ที่มา:จากหนังสือวิทยาศาสตร์ในการแพทย์แผนไทย
โดยอาจารย์ ดร.อัญชลี จูฑะพุทธิ
หัวหน้างานวิจัย กลุ่มงานพัฒนาวิชาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า