สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

การให้นมแม่คือครูผู้ยิ่งใหญ่

การตอบสนองสัญชาตญาณของความเป็นแม่ คือการให้นมแม่ โดยมีการกระตุ้นการหลั่งน้ำนมจากฮอร์โมนโปรแลกติน จากการทดลองในหนูตัวผู้ โดยการฉีดโปรแลคตินเข้าไป มันจึงเข้าไปคาบและเลียลูกหนูเป็นการแสดงพฤติกรรมปกป้องตัวอ่อน ในหญิงระยะตั้งครรภ์และระยะที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ระดับของฮอร์โมนนี้จะสูง

ออกซิโทซิน เป็นฮอร์โมนอีกตัวหนึ่งที่กระตุ้นพฤติกรรมความเป็นแม่ จะมีฮอร์โมนนี้ออกมาทุกครั้งที่ลูกดูดนมแม่และมีน้ำนมพุ่ง แม่จะมีอารมณ์ที่สงบ รู้สึกอยากปกป้องลูก เนื่องจากออกซิโทซินจะออกฤทธิ์เร็วในทันทีทันใด สัตว์ทดลองจะแสดงพฤติกรรมปกป้องตัวอ่อนภายใน 1 นาที หลังจากได้รับออกซิโทซินฉีดเข้าระบบประสาทโดยตรง แม้จะไม่เคยเลี้ยงลูกอ่อนมาก่อน ระหว่างการที่ให้นมแม่คุณแม่หลายคนอาจยอมรับว่า แม้จะเหนื่อยเพียงไร แต่เมื่อได้อุ้มลูกให้ดูดนมอยู่ในอ้อมแขน จะเกิดความรักใคร่เอ็นดูลูกขึ้นมาจับใจ จนต้องกอดกระชับลูกมากขึ้น รู้สึกกระชุ่มกระชวย ความรู้สึกผูกพันก็ยิ่งทวีคุณขึ้นทุกครั้งเมื่อให้ลูกดูดนม ซึ่งก็เป็นผลมาจากฮอร์โมนออกซิโทซินั่นเอง

ทั้งแม่และลูกจะรู้สึกอบอุ่นมั่นใจทุกครั้งเมื่ออุ้มลูกขึ้นมาให้นมแม่อย่างใกล้ชิด สำหรับทารกการสัมผัสกอดรัดเป็นสิ่งที่จำเป็น ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจิตวิทยาของการให้นมแม่ ที่ชื่อ ดร.ไนล์ นิวตัน(Niles Newton) กล่าวว่า จะมีความแตกต่างกันระหว่างแม่ที่ให้นมแม่แบบไม่มีข้อจำกัด กับแม่ที่ไม่ได้ให้นมแม่ แม่ที่ให้นมแม่การตอบสนองของผิวหนังต่อการสัมผัสจะดีกว่า จะสงบใจ เย็นกว่า เต้านมของแม่จะอุ่นหรือเย็นขึ้นกับอุณหภูมิของผิวหนังลูกที่อุ้มอยู่

การให้นมแม่ สอนแม่ให้เอาใจใส่ต่ออารมณ์และท่าทางที่ลูกแสดงออก เมื่อลูกหิว ง่วงนอน หรืออยากให้อุ้ม แม่ก็จะสังเกตได้จากการเรียนรู้ ปฏิกิริยาของแม่ลูกจะสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องใช้คำพูด เมื่อสิ้นสุดการให้นมแม่ คุณแม่ก็จะได้เรียนรู้ถึงการเอาใจเขามาใส่ใจเรา และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ทั้งแม่และลูกต้องร่วมมือกัน ปรับตัวเข้าหากัน ยอมรับซึ่งกันและกัน เพื่อเป็นพื้นฐานของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ในช่วงที่ให้นมแม่นี้จะเกิดความอบอุ่นและการรู้จักประนีประนอมและจะคงอยู่ตลอดไป

ครูผู้ยิ่งใหญ่ที่สอนให้เรารู้จักความรัก ความผูกพันใกล้ชิด ความเอื้ออาทร และเหนือกว่าสิ่งอื่นใดคือการสอนให้เราค่อยๆ เข้าถึงความเป็นแม่ สิ่งนั้นก็คือ การให้นมแม่

เราคงยังไม่รู้ซึ้งถึงความรักของแม่ ว่ามีต่อลูกมากมายเพียงใด จนกว่าจะได้อุ้มลูกของตัวเอง ความเป็นแม่จะเริ่มเพิ่มขึ้นทีละน้อยเมื่อได้ให้นมแม่ด้วยความสุขใจ อยากให้ลูกมีความสุข แจ่มใสและแข็ง ความรู้สึกนี้จะแผ่ขยายจากตัวเราไปสู่ลูก และไปสู่ลูกของคนอื่นๆ ในสังคมด้วย

ความเป็นแม่ไม่ได้สิ้นสุดตามแม้การให้นมแม่จะสิ้นสุดลง เราจะรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น ยอมรับความคิดเห็น และปฏิกิริยาของผู้อื่นมากขึ้น เมื่อมีจิตใจที่อ่อนโยน มีการช่วยเหลือกันทำงานมากขึ้นไม่มุ่งที่จะแข่งขันกัน

จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่นำเรากลับสู่วิถีแห่งธรรมชาติจากการให้นมแม่ จะขยายไปสู่สิ่งที่ใหญ่กว่า ด้วยการพัฒนาสังคมเข้าหาธรรมชาติ ให้เห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์มากขึ้น

ที่มา: จากหนังสือเรื่อง เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ วิถีแห่งธรรมชาติ
โดย: พ.ญ. ศิริพัฒนา ศิริธนารัตนกุล

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า