สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

การเลี้ยงทารกด้วยนมแม่

ปัจจุบันนี้บรรดาประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลาย ไม่ว่าในเอเซีย หรืออาฟริกา  ได้รับเอาวัฒนธรรมของฝรั่งชาติยุโรปและอเมริกาไว้เป็นอันมาก  โดยเฉพาะท่านสุภาพสตรีรู้สึกว่าจะชื่นชมกับวัฒนธรรมของชาวยุโรปเป็นพิเศษ ไม่ว่าในด้านแฟชั่นการแต่งกาย หรือการทำงานนอกบ้าน จนถึงการนิยมเลี้ยงทารกด้วยนมกระป๋อง  การเลี้ยงทารกด้วยนมแม่มักจะพบในหมู่สตรีที่อาศัยอยู่ในชนบท  หรือสตรีที่มีฐานะทางการเงินของครอบครัวไม่อำนวย แต่กระนั้นก็ยังมีสตรีดังกล่าวจำนวนไม่น้อย  ที่พยายามขวนขวายหาเงินมาซื้อนมข้นราคาถูกมาเลี้ยงทารกของตนจนได้  ซึ่งความจริงแล้วนมข้นไม่ว่าราคาถูกหรือราคาแพงก็ไม่เหมาะแก่การใช้เลี้ยงทารกทั้งนั้น นมแม่เป็นนมที่ดีที่สุด เหมาะและสะดวกที่สุดเท่าที่ธรรมชาติได้ประทานมาให้  แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่สตรีส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้พากันเข้าใจผิด กลับไปนิยมชมชอบวิธีการเลี้ยงทารกด้วยนมกระป๋อง

นมแม่มีข้อดีอย่างไร?  นมแม่มีข้อดีหลายประการดังจะกล่าวต่อไปนี้

๑.  ทารก ที่รับประทานนมแม่ จะเป็นโรคติดเชื้อน้อยกว่าทารกที่รับประทานนมกระป๋อง  โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา  การแพทย์และสาธารณสุขยังไม่เจริญและเป็นเมืองร้อนจนถึงกับนายแพทย์เจลลิฟได้เขียนไว้ว่า “ไม่ใช่เป็นการพูดเกินความจริง  สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนา หรือในท้องถิ่นซึ่งการแพทย์และสาธารณสุขยังไม่เจริญ  ที่จะกล่าวว่าการให้ทารกรับประทานนมแม่อย่างน้อยในระยะ ๖ เดือนแรก เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้ทารกมีชีวิตอยู่ได้  การให้ทารกรับประทานนมกระป๋องเท่ากับถือว่าเป็นการยื่นอาวุธที่อาจจะนำความตายมาสู่ทารกไว้ในอุ้งมือของแม่” ทารกที่รับประทานนมแม่ อุจจาระจะมีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งจะช่วยหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อบัคเตรีบางชนิดได้ ทารกที่รับประทานนมแม่จึงไม่ค่อยเป็นโรคอุจจาระร่วง จากการศึกษาโรคอุจจาระร่วงในทารกและเด็กอ่อนในโรงพยาบาลนครราชสีมา พบว่า ๘ ใน ๑๐ คนของทารกหรือเด็กอ่อนที่เป็นโรคอุจจาระร่วงเป็นพวกที่เลี้ยงด้วยนมกระป๋อง  นอกจากนี้เด็กที่รับประทานนมแม่มักจะไม่ค่อยเป็นหวัด  หรือเป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินลมหายใจ ถึงแม้เป็นหวัดก็มักจะไม่มีโรคแทรกซ้อน เช่นปอดบวม หรือหูน้ำหนวก จากการศึกษาที่เกาะฟาโรพบว่า เด็กที่รับประทานนมกระป๋องจะเป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินลมหายใจถึง ๑.๘๗℅ แต่ทารกที่รับประทานนมแม่จะเป็นเพียง ๐.๑๕℅เท่านั้น

๒.  เป็นการประหยัด  เพราะไม่ต้องซื้อ ส่วนนมกระป๋องถึงแม้ชนิดที่ถูก ๆ ก็ต้องซื้อ  ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระการใช้จ่ายในครอบครัวโดยไม่จำเป็น นมยิ่งถูกคุณภาพก็ไม่ดี  ใช้เลี้ยงทารกก็ไม่แข็งแรง  เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย เมื่อเจ็บไข้ก็ต้องเพิ่มภาระการใช้จ่ายมากขึ้นอีก

นอกจากนี้การเลี้ยงทารกด้วยนมแม่ ยังเป็นการชลอการเกิดตามวิธีธรรมชาติอีกด้วย เพราะขณะที่ให้ทารกดูดนมนั้น ไข่จะไม่สุกและไม่มีประจำเดือน ถ้าให้ทารกดูดนมจนถึงอายุ ๘ เดือน ระยะที่ไข่ไม่สุกและไม่มีประจำเดือนจะนานตั้งแต่หลายอาทิตย์จนถึง ๒๖ เดือน ซึ่งจะช่วยประหยัดค่ายาเม็ดคุมกำเนิดเป็นจำนวนไม่น้อย

๓.  ความสะดวก อันนี้เห็นได้ชัดมาก คือนมแม่มีอยู่แล้วจะให้เมื่อไรก็ได้  ไม่ต้องเตรียมเครื่องมือเครื่องใช้อย่างเลี้ยงด้วยนมกระป๋อง

๔.  มีผลดีทางจิตใจ  ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกแน่นแฟ้นกว่าและอบอุ่นมากกว่า  ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกอาจจะน้อยกว่าสมัยก่อน ๆ จึทำให้เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยอยู่ในโอวาทของพ่อแม่ เด็กเกเรมีมากขึ้น น่าเสียดายที่ยังไม่มีใครทำการศึกษาว่าเด็กที่เกเรทั้งหลายนั้น ตอนที่เป็นทารกได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมแม่หรือนมกระป๋องกันแน่?

๕.  ความเจ็บรอบ ๆ ทวารหนัก มักจะไม่มีในทารกที่รับประทานนมแม่ แต่จะเกิดขึ้นบ่อย ๆ ในทารกที่รับประทานนมกระป๋อง ความเจ็บปวดรอบ ๆ ทวารหนักนี้จะทำให้ทารกร้องกวนจู้จี้ต่าง ๆ  ซึ่งสร้างความรำคาญให้เกิดขึ้นแก่ผู้เป็นแม่เป็นอันมาก

๖.  นมแม่ย่อยง่ายกว่านมกระป๋อง ในนมแม่มีอาหารจำพวกโปรตีน ไวตามินบี และเกลือแคลเซียมน้อยกว่าในนมวัว แต่มีแร่เหล็กและไวตามินซีมากกว่า  ดังนั้นทารกที่รับประทานนมแม่อาจเกิดภาวะการขาดไวตามินบีได้  ถ้าหากว่าแม่อดของแสลงหรืออดอาหารบางชนิด  เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นแม่ทุกคนควรระลึกและจำไว้เสมอว่า ระยะให้นมบุตรนั้นควรรับประทานอาหารทุกชนิด ยิ่งอาหารที่มีประโยชน์ เช่น เนื้อ นม ไข่ ผัก นั้นจะทำให้ท่านมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์  เมื่อท่านมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ก็จะมีน้ำนมมาก ทารกของท่านก็จะได้รับนมเพียงพอผลที่ตามมาก็คือทารกก็จะเจริญเติบโตแข็งแรงตามไปด้วย อาหารที่ควรยกเว้นก็คือ พวก หอม กระเทียม หรือของดองต่าง ๆ เพราะของเหล่านี้ จะทำให้รสหรือกลิ่นของน้ำนมเปลี่ยนแปลงไป ทารกบางคนอาจไม่ดูดเลยก็ได้

๗.  ทารกที่รับประทานนมแม่มักจะไม่มีอาการแพ้เกิดขึ้น ส่วนทารกที่รับประทานนมกระป๋อง จะเกิดการแพ้ต่อสารโปรตีนบางอย่างในนมวัวได้ ทารกพวกนี้จะเป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินลมหายใจได้ง่าย และเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ

ข้อไม่ดีในการเลี้ยงทารกด้วยนมแม่นั้นความจริงไม่มี ที่ว่าไม่ดีก็คือว่าทำให้แม่มีความเป็นอิสระน้อยกว่า จะไปไหนมาไหนก็ต้องเอาลูกไปด้วย  ซึ่งจะเป็นการประกาศตัวเองว่าไม่ได้เป็นนางสาวต่อไปอีกแล้ว  อีกประการหนึ่งข้อที่ไม่ดีก็คือว่า  ถ้าให้ทารกดูดนมแล้วจะทำให้ทรวดทรงเสียไป  อันนี้ไม่เป็นความจริง ถ้ารู้จักวิธีบริหารร่างกาย อย่าปล่อยให้อ้วน และใช้ยกทรงหลวม ๆ เพื่อรับรองเต้านมแล้วจะทำให้ทรวงทรงดีขึ้นด้วยซ้ำไป  โดยเฉพาะในรายที่ทรวงอกค่อนข้างแฟบ การให้ทารกดูดนมแม่ร่วมกับการบริหารร่างกายให้ถูกวิธี  จะช่วยทำให้ทรวงอกใหญ่น่าดูยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องไปฉีดยาหรือรักษาทรวงอก โดยวิธีการทางศัลยกรรม

อาจมีข้อยุ่งยากบางประการที่จะเกิดขึ้นแก่มารดาในระยะที่ให้ทารกดูดนม เช่น เต้านมคัด ปวดบริเวณเต้านม น้ำนมมีไม่เพียงพอ หัวนมเป็นแผล หรือน้ำนมไหลเอง โดยที่ทารกยังไม่ได้ดูด เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งข้อยุ่งยากต่าง ๆ นี้ล้วนแต่ป้องกันและเยียวยาได้ทั้งสิ้น  นอกจากนี้อาจจะพบว่ามารดาบางรายไม่มีน้ำนม ในรายเช่นนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมารดาเองมีความวิตกกังวลในจิตใจ หรือไม่ก็ไม่มีความรักหรือความต้องการในตัวทารกที่คลอดออกมา  ซึ่งมักพบในมารดาที่ตั้งครรภ์โดยไม่มีพ่อ หรือตั้งครรภ์โดยเหตุบังเอิญ ซึ่งเจ้าตัวไม่ต้องการให้เกิดขึ้น

สรุปแล้วจะเห็นว่า นมแม่เป็นนมที่ดีที่สุด เหมาะที่สุดเท่าที่ธรรมชาติได้ประทานมาให้  ฉะนั้นจึงควรให้ทารกทุกคนรับประทานนมแม่อย่างน้อย ๆ ก็ในระยะ ๒-๓ เดือนแรก หรือรับประทานจนถึงอายุ ๘-๑๑ เดือนได้ยิ่งดี  สำหรับในรายที่มารดาทำงานนอกบ้าน ในเวลาเช้า เวลาเย็น และตอนกลางคืนก็ควรให้ทารกได้รับประทานนมแม่ในช่วงเวลาดังกล่าว นมแม่มีข้อดีมากมายดังได้กล่าวมาแล้ว เพราะฉะนั้นมาเลี้ยงทารกด้วยนมแม่กันเถิด

น.พ.สวัสดิ์  สินธุเสน

,

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า