เป็นโปรแกรมที่สามารถนำมาใช้กับเด็กตั้งแต่วัยสามสัปดาห์ไปจนถึงวัยเริ่มคลาน โดยการใช้การลูบหรือนวดอย่างเบามากระหว่างเด็กกับพ่อแม่ หรือพี่เลี้ยง ซึ่งเป็นพื้นฐานของความผูกพัน เมื่อเด็กโตขึ้นการนวดนี้ก็สามารถนำมาใช้ได้โดยปรับให้สอดคล้องกับความต้องการตามวัย รวมทั้งเด็กที่มีปัญหาด้านพัฒนาการด้วย
การนวดทารก เป็นขนบประเพณีมาตั้งแต่ครั้งโบราณในวัฒนธรรมต่างๆ มากมายทั่วโลก แต่ประเทศทางซีกโลกตะวันตกเพิ่งจะมาค้นพบกันใหม่เมื่อไม่นานมานี้เอง
วิมาลา ชไนเดอร์(Vimala Schneider) ได้มาพบกับการใช้วิธีการนวดทารกโดยบังเอิญเมื่อปี ค.ศ.1978 โดยมีความสนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมากในระหว่างทำงานอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในอินเดีย เธอได้ค้นคว้าอย่างกว้างขวาง และได้ประมวลจัดหลักสูตรสำหรับการเรียนการสอนขึ้นมาหลังจากที่กลับมายังสหรัฐฯ แล้ว และต่อมาก็ได้ตั้งองค์การที่มีชื่อว่า สมาคมครูสอนนวดทารกนานาชาติ(International Association of Infant Massage Instructors) ขึ้น
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า พัฒนาการของเด็กจะมีผลกระทบมาจากการติดต่อด้วยความรักความอาทรระหว่างคนเลี้ยงและทารก การสัมผัสด้วยความรัก เอื้ออาทรเป็นสิ่งจำเป็นต่อพัฒนาการของเด็กทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ การนวดทารกจึงเป็นวิธีการสร้างการติดต่อในทางบวกในระยะแรกที่ง่ายและให้ความเบิกบานใจ
ดร.ทิฟฟานี ฟิลด์(Tiffany Field) ได้ทำการศึกษาที่มหาวิทยาลัยไมอามีเมื่อเร็วนี้และแสดงให้เห็นว่า การได้รับการนวดและจับให้เคลื่อนไหววันละสามครั้งๆ ละ 15 นาที ในทารกที่คลอดก่อนกำหนด จะทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นสูงกว่าคนที่ได้รับการดูแลตามเวลาประจำปกติถึง 47% และพัฒนาการด้านประสาทและร่างกายของทารกที่ได้รับการนวดทุกวันจะก้าวหน้ามากกว่าคนที่ไม่ได้รับการนวด
หนังสือของ เฟรเดอริค เลบอยเยอร์(Frederick Leboyer) ที่มีชื่อเรื่องว่า การเกิดที่ปราศจากความรุนแรง(Birth Without Violence) ทำให้เขาเป็นกุมารแพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา เขาเป็นผู้สนับสนุนการนวดทารกอย่างแรงกล้า เขาได้พูดถึงความสำคัญของสัมผัสที่มีต่อทารกว่า เพราะความขัดแย้งอย่างรุนแรงที่เด็กได้รับเมื่อต้องออกมาผจญกับโลกภายนอก หลังจากที่เกิดมาแล้ว เด็กๆ ปรารถนาความรู้สึกและการรับสัมผัสอย่างที่เคยประสบมาก่อน และที่คุ้นเคยมาก่อน ตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่ในครรภ์
เขากล่าว่า “การสัมผัสและลูบคลำกับการนวดที่เด็กได้รับ จัดได้ว่าเป็นอาหารสำหรับทารก ซึ่งมีความจำเป็นมากเท่าๆ กับแร่ธาตุ วิตามิน และโปรตีน เด็กทารกจะยอมตายเสียดีกว่าที่จะขาดอาหารที่มีชื่อว่าความรักนี้ และก็มีบ่อยๆ ที่เด็กทารกตายไปเพราะขาดความรัก”
มีประโยชน์มากมายจากการนวดทารก ซึ่งมันจะช่วยเสริมสร้างและบำรุงการทำงานของระบบการหายใจ การหมุนเวียนโลหิตและระบบการย่อยอาหาร ช่วยให้เด็กทารกสบายใจ และคลายความเครียดที่สั่งสมขึ้นมาจากการได้ประสบพบเจอกับสิ่งใหม่ๆ ในโลกเป็นประจำทุกวัน ช่วยส่งเสริมการสื่อสารติดต่อกันด้วยความรักระหว่างคนเลี้ยงกับตัวทารก ช่วยให้ความยืดหยุ่นแก่กล้ามเนื้อ และช่วยให้คนเลี้ยงได้ติดต่อกับทารกในรูปแบบที่ไม่ใช่ด้วยการพูดจา
รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้มีหนังสือดีๆ อยู่หลายเรื่อง เช่น Infant Massage: A Handbook for Loving Parents ซึ่งเขียนโดย Vimala Schneider-McClure, เรื่อง Loving Hands: The Traditional Indian Art of Baby Massage เขียนโดย Frederick Leboyer และเรื่อง touching: The Human Significance of the Skin ของแอชลีย์ มอนตากิว(Ashley Montague)
เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา