สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

การนวดขวางใยเส้นเอ็น(Cross-Fiber Friction Massage หรือ Deep Transverse Friction)

กล้ามเนื้อที่เป็นโครงร่างของร่างกายประกอบไปด้วยเส้นเอ็นที่จับกลุ่มกันเป็นมัดๆ และทอดไปในทิศทางเดียวกัน ที่เรียกว่า กล้ามเนื้อลาย(straited muscle) ซึ่งส่วนใหญ่เทคนิคการนวดแบบอื่นๆ จะนวดกล้ามเนื้อไปตามแนวเดียวกับเส้นใย แต่วิธีการนี้จะเป็นเทคนิคการนวดที่ถูตามแนวขวาง หรือแนวตั้งฉากกับเส้นใยของกล้ามเนื้อ

กล้ามเนื้อของคนเราจะประกอบด้วยเส้นใยเป็นกลุ่มๆ ที่เรียกกันว่า มัดกล้ามเนื้อ ในแต่ละมัดจะประกอบไปด้วยเส้นใยที่มันทอดตัวในแนวเดียวกัน ซึ่งการนวดวิธีนี้จะเป็นการนวดตามแนวที่ขวางกับเส้นใยที่มันทอดตัวอยู่

ดร.เจมส์ เอช. ไซเรียกซ์(James H. Cyriax) ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกชาวอังกฤษ ได้เป็นผู้ที่พัฒนาเทคนิคนี้ขึ้นมา โดยปกติร่างกายของคนเราจะมีกลไกรับสัญญาณประสาทอยู่ทั่วร่างกาย เมื่อรับแล้วก็จะส่งข้อมูลที่ได้ผ่านระบบประสาทไปยังสมอง ซึ่งการส่งสัญญาณนี้จะมีอยู่ตลอดเวลา การนวดแบบนี้จะจัดอยู่ในประเภทการนวดเนื้อเยื่อระดับลึก และอาจจัดอยู่ในจำพวกการปรับจัดกลไกการรับสัญญาณประสาทใหม่ได้ด้วย

นักวิชาชีพด้านการดูแลสุขภาพบางคนเชื่อว่า การกระตุ้นโดยตรงจากการนวดแบบขวางแนวเส้นใยของกล้ามเนื้อ จะเป็นกลไกในการรับสัญญาณประสาท ควบคุมความตึงในกล้ามเนื้อ และชักนำให้มันผ่อนคลายได้

ในการทำกายภาพบำบัด หรือนวดนักกีฬา และการบำบัดรักษาแนวที่ช่วยป้องกัน หรือลดการก่อตัวของเนื้อเยื่อที่เป็นรอยแผลเป็น เทคนิคการนวดกล้ามเนื้อตามแนวขวางเส้นใยนี้ก็เป็นที่ใช้กันอยู่อย่างกว้างขวาง

โดยแก่นแท้แล้วร่างกายภายในของเราจะรู้โดยสัญชาตญาณว่า จำเป็นจะต้องทำอะไรเพื่อให้ตัวเองสมบูรณ์ดีขึ้นมาอีก หากว่าหมอนวดผู้ทรงคุณวุฒิเห็นว่าการนวดตามแนวเดียวกับเส้นใยไม่เหมาะสมด้วยเหตุผลบางประการ ก็อาจเสนอแนวทางใหม่ด้วยการนวดแบบขวางแนวเส้นใย ซึ่งอาจเป็นเทคนิคที่มีประโยชน์ได้

สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ได้หลายอย่างจากการนวดตามแนวขวางเส้นใยกล้ามเนื้อ และการนวดสำหรับนักกีฬายังอาจช่วยกระตุ้นจุดต่างๆ และบำบัดรักษาอาการเส้นเอ็นอักเสบได้ด้วย

การนวดตามแนวขวางกล้ามเนื้อ ดูจะช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นฟูสมรรถนะในการทำงานและระบายสารพิษที่สั่งสมอยู่ได้รวดเร็วยิ่งกว่าเทคนิคการนวดแบบอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่การบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหรือความตึงที่กล้ามเนื้อที่เกิดมาจากความเครียดและปัจจัยอื่นๆ สามารถเป็นสาเหตุให้มีการสร้างเสริมกรดแล็คติค และกรดคาร์บอนิค ขึ้นในกล้ามเนื้อได้ เมื่อผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารพิษและเป็นของเสียเหล่านี้อยู่ในร่างกายโดยไม่ถูกกำจัดออกไปมันก็จะส่งผลให้เกิด “ปม” หรือการกระตุก ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้เกิดขึ้นที่กล้ามเนื้อนั้น การนวดจึงเป็นการเพิ่มการหมุนเวียนโลหิตไปยังบริเวณที่นวด พร้อมกับนำเอาออกซิเขนและสารอาหารใหม่ๆ ไปส่งให้ และในขณะเดียวกันก็กำจัดผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเสียออกไปด้วย

การใช้เทคนิคที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม คือกุญแจสำคัญอย่างหนึ่งของการนวดที่ทำให้ประสบความสำเร็จ และการนวดตามแนวขวางเส้นใยก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จได้เช่นกัน เทคนิคนี้จะใช้โดยลำพัง หรือประกอบกับการนวดในแบบอื่นๆ ก็ได้ ผู้ที่สามารถนำเอาวิธีการนวดแบบนี้ไปใช้ประโยชน์ได้ คือ หมอนวดที่เชี่ยวชาญพิเศษในการนวดนักกีฬา และนักกายภาพบำบัด หรือผู้ที่เป็นนักวิชาชีพทางการแพทย์สองพวก

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า