สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

วิธีการเยียวยาที่ร่างกายและความคิดจิตใจแบบฮาโคมิ(Hakomi Method of Body Mind Therapy)

เป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพและทรงพลังในการค้นพบและศึกษาแบบแผนของความคิด/ร่างกาย กับความเชื่อที่เป็นแกน(ความเชื่อที่จำกัดเฉพาะตัวตน ก่อตัวขึ้นในวัยเด็กและถูกเก็บรักษาไว้ในจิตใต้สำนึก) ตามประสบการณ์ที่ผ่านมา มันสังเคราะห์แง่มุมต่างๆ ของจิตบำบัดในแบบตะวันตก ปรัชญาแบบตะวันออก และศาสตร์ร่วมสมัย แล้วประมวลเข้ากันเป็นกระบวนการพิเศษที่ไม่เหมือนใคร

ฮาโคมิเป็นคำในภาษาโฮปิของชาวพื้นเมืองอเมริกันโบราณ แปลว่า “เธออยู่ในฐานะอย่างไรในความสัมพันธ์กับอาณาดินแดนมากมายเหล่านี้” ซึ่งอาจแปลง่ายๆ ตามภาษาสมัยใหม่ได้ว่า “เธอคือใคร”

กรรมวิธีฮาโคมิได้พัฒนาขึ้นในตอนปลายทศวรรษที่ 1970 โดย รอน เคิร์ต(Ron Kurtz) ซึ่งนำประโยชน์จากปรัชญา เทคนิคและวิธีการต่างๆ หลายอย่างหลายแนว กำเนิดบางส่วนของมันมาจากศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋า และยังได้มาจากวิธีการบำบัดแบบให้ร่างกายเป็นศูนย์กลางในแบบสมัยใหม่ ได้แก่ วิธีการบำบัดแบบไรเคียน ไบโอเอ็นเนอร์เจติคส์ เกสตัลท์ ไซโคมอเตอร์ เฟลเดนครายส์ การนวดโครงสร้าง การสะกดจิตแบบอีริคสัน การเพ่งและการสร้างโปรแกรมภาษา-ประสาท

วิธีการฮาโคมิมีทฤษฎีหลักที่อยู่เบื้องหลัง คือ ในสมัยยังเป็นเด็กแต่ละบุคคลย่อมมีประสบการณ์บางอย่างที่เกี่ยวกับความรู้สึก ความคิดและการรับรู้ ที่รุนแรงมากพอที่จะทำให้เกิดความเชื่อพื้นฐานเกี่ยวกับตัวเองและโลก ความเชื่อนี้จะส่งผลให้เชิงจำกัดหรือบีบตัวเองเอาไว้ในยามที่เป็นผู้ใหญ่ กระบวนการฮาโคมิ มักจะเกี่ยวข้องกับการติดตามความเชื่อเหล่านี้ โดยย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในวัยเด็กสมัยที่การตอบสนองอย่างติดเป็นนิสัยจนตลอดชีวิตได้ก่อตัวขึ้นมา

การเอื้ออำนวยให้เกิดความเติบโตโดยส่วนตัวและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คือเป้าหมายของวิธีการฮาโคมิ ความเชื่อเกี่ยวกับตนเองคนเราสามารถค้นพบ ศึกษา และแก้ไขได้ด้วยการสร้างกรอบจำกัดให้ตัวเองด้วยกรรมวิธีต่างๆ กัน ในวิธีการฮาโคมินี้จะมีการจัดให้ทั้งในแบบเป็นกลุ่มและในการจัดการบำบัดตัวต่อตัว

วิธีการฮาโคมิ ใช้ประโยชน์จากการนวดแบบฮาโคมิ มีการยืดเส้นยืดสายในแบบที่สังเคราะห์ขึ้นมาเป็นพิเศษ รวมทั้งจิตบำบัดที่อาศัยพื้นฐานของการรักรู้ว่า ร่างกาย ความคิด และจิตวิญญาณ เป็นความต่อเนื่องของประสบการณ์เดียวกัน ผู้ให้การบำบัดจะดำเนินการผ่านร่างกาย มิใช่ทำกับร่างกาย ร่างกายถูกมองว่าเป็นแหล่งข้อมูลมหาศาลที่สามารถจะเข้าไปค้นและดึงออกมาใช้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ และมิใช่สิ่งที่จะต้องแก้ไขซ่อมแซม

การบำบัดแบบฮาโคมิ ส่วนใหญ่จะทำกับสภาวะพิเศษของจิตสำนึก หรือการรู้ในระดับลึก ที่เรียกว่า “ความตระหนักรู้ตัวอย่างเต็มที่” เพื่อก่อให้เกิดการสื่อสารในแบบเปิดระหว่างจิตสำนึกกับจิตใต้สำนึก คนเราไม่เพียงแต่มีประสบการณ์รับรู้ในภาวะของความตระหนักรู้ตัว แต่ยังสามารถสังเกตเนื้อหาที่กำลังดำเนินอยู่ของประสบการณ์ต่างได้ โดยไม่เข้าไปแทรกแซง

การยืดเส้นยืดสายแบบฮาโคมิ ประกอบด้วยการนวด(ที่มีทั้งการนวดเนื้อเยื่อระดับลึก และการนวดโครงสร้าง) และการเคลื่อนไหวกับการรับรู้สภาวะของร่างกาย ทั้งการยืดเส้นสายและจิตบำบัด ถูกนำมาใช้พร้อมๆ กันตลอดกระบวนการฮาโคมิ เพื่อรักษาความรู้สึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างร่างที่เป็นตัวตนกับความเชื่อต่างๆ ความรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ จะมีมากขึ้นและความทรงจำ ความเชื่อกับอารมณ์ที่เกี่ยวข้องก็จะผุดขึ้นมา

สามารถแยกก่อให้เกิดประสบการณ์ต่างๆ กว้างขวางด้วยการยืดเส้นยืดสายแบบฮาโคมิ การพิจารณาถึงประสบการณ์เหล่านี้ในขณะปัจจุบันจะทำให้เข้าใจถึงความเชื่อและเหตุการณ์ในวัยเด็กที่ก่อให้เกิดความเชื่อเหล่านั้นเสียใหม่ จะทำให้สามารถพัฒนาทางเลือกในแบบที่ต่างออกไป ในแบบที่จะให้ความพึงพอใจมากขึ้น แล้วนำเอาทางเลือกเหล่านั้น เข้ามารวมประกอบอยู่ในชีวิตประจำวัน

ตามสถานที่หลายแห่งในอเมริกาเหนือและยุโรป มีการรับฝึกวิธีการเยียวยาที่ร่างกายและความคิดจิตใจแบบฮาโคมิ แก่ผู้ที่สนใจ แต่ละสถานที่จะมีการเรียนที่แตกต่างกันออกไป แต่แบบอย่างในการฝึกเป็นผู้บำบัดด้วยวิธีนี้ก็มีอยู่ คือประกอบด้วยการฝึกในช่วงที่มีวันหยุดสุดสัปดาห์ติดต่อกันนาน 3-4 วัน ทุกๆ 4-6 สัปดาห์ เป็นระยะเวลา 18-24 เดือน โดยมีการฝึกในส่วนของการนวดนานกว่านั้น

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรรมวิธีฮาโคมิอ่านได้จากหนังสือของรอน เคิร์ตซ์ เรื่อง Body-Centered Psychotherapy: The Hakomi Method และจากวีดิโอเทปซึ่งมีจำหน่ายที่สถาบันฮาโคมิ ตามที่อยู่ดังนี้
Hakomi Bodywork
P.O. Box 1873
Boulder, CO 80306
USA.

เรียบเรียงโดย:สุวิชญ์ ปรัชญาปารมิตา

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า