สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

อัมพาตจากหลอดเลือดในสมองพิการ

“อัมพาต” เป็นอาการเจ็บป่วยที่รู้จักกันดี เกิดขึ้นเพราะระบบประสาทส่วนกลางที่ควบคุมการทำงานของแขน ขา เสีย ไป และความพิการนี้เกิดขึ้นได้จากสาเหตุหลายอย่าง แต่ที่สำคัญมากเพราะพบได้บ่อยที่สุด ได้แก่ หลอดเลือดแดงในสมองแตก ตีบ หรือตัน

ในประเทศทางตะวันตก โรคที่เกิดจากหลอดเลือดแดงในสมองพิการ เป็นสาเหตุ การตายของมนุษย ที่สำคัญ อันดับสามรองจากโรคหัวใจที่เกิดขึ้นเพราะหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงอวัยวะนั้น (หลอดเลือดโคโรนารี่) อุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง และ โรคมะเร็งทุกชนิดรวมกันมาเป็นอันดับสอง ในประเทศไทยยังไม่มีสถิติเกี่ยวกับอุบัติการของโรคหลอดเลือดแดงในสมองพิการ แต่จากประสบการณของผู้เขียนพบว่า ประมาณ 40% ของผู้ป่วย ด้วยโรคประสาทที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ป่วย ด้วยโรคดังกล่าว พูดได้ว่าเกือบจะไม่มีโรงพยาบาลใหญ่ ๆ แห่งไหนในนครหลวงฯ ที่ในสัปดาห์หนึ่ง ๆ จะไม่มีผู้ป่วยอัมพาตเพราะหลอดเลือดแดงในสมองพิการ ไปรับการรักษาโรคนี้จึงเป็นโรคที่สำคัญโรคหนึ่งในประเทศเรา เช่นเดียวกับในยุโรปหรือในสหรัฐอเมริกา และเป็นโรคที่คนไทยน่าจะทราบไว้บ้าง  เพราะเป็นโรคที่พอมีทางป้องกันและรักษาได้

ประมาณ 70% ของความพิการเนื่องจากหลอดเลือดแดงในสมองผิดปกติ  เป็นเพราะหลอดเลือดอุดตันหรือตีบ ที่เหลือ 30% เป็นเนื่องจากหลอดเลือดแตก  ส่วนหลอดเลือดตีบหรือตันพบบ่อยกว่าแต่มีอัตราตายต่ำกว่าหลอดเลือดแตกมาก ความผิดปกติ 3 อย่าง คือ แตก ตีบ และตัน มักจะพบในคนที่มีแรงดันเลือดหรือความดันโลหิตสูงและมีโรคเบาหวาน  ในผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต เพราะหลอดเลือดตีบ หรือตัน พบว่าประมาณเกือบ 2 ใน 3 มีแรงดันเลือดสูง ประมาณ 40% เป็นโรคเบาหวาน และมีเพียง 1 ใน 5 รายเท่านั้น ที่ไม่มีโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงร่วมด้วย กว่า 9 ใน 10 รายที่หลอดโลหิตตีบเป็นเพราะผนังหลอดเลือดหนาขึ้น  เนื่องจากมีหินปูนและโคเลสเตอรอลไปจับซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษย์เกือบทุกคน และเป็นมากขึ้น ตามอายุ โดยเฉพาะในคนที่มีความเป็นอยู่ตามแบบวัฒนธรรมตะวันตกปัจจุบัน  ภาวะที่กล่าวมักจะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าธรรมดาในคนที่เป็นเบาหวานหรือแรงดันเลือดสูง มีไม่ถึง 10% ที่หลอดเลือดแดงตีบตันเพราะมีก้อนเลือดจากลิ้นหัวใจหรือกล้ามเนื้อหัวใจพิการหลุดไปอุด หรือเพราะมีการอักเสบของหลอดเลือดจากโรคอี่น ๆ เช่น โรคซิฟิลิส และวัณโรค เป็นต้น  ผู้ป่วยด้วยโรคหลัง ๆ นี้มักจะมีอายุน้อยกว่า พวกที่มีหลอดเลือดตีบตัน เพราะผนังหนา จากหินปูนและโคเลสเตอรอลไปจับ  ซึ่งมักจะเป็นหลังอายุ 40 ปี

ผู้ป่วยอัมพาตเพราะหลอดเลือดพิการแต่กำเนิด  หรือพิการ เพราะมีเชื้อแบคทีเรียเข้ากระแสโลหิตไปเกาะที่ผนังหลอดเลือดแล้วทำลายผนังนั้นให้บางลง จนที่สุดแรงดันเลือดธรรมดาก็ทำให้หลอดเลือดทะลุเกิดตกเลือดในสมองได้  โรคเลือดหลายชนิดโดยเฉพาะที่ทำให้มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ให้เกิดมีการตกเลือดในสมองได้  แต่พบได้น้อยเมื่อเทียบกับสาเหตุที่กล่าวมาแล้ว

ก่อนที่จะทราบถึงการป้องกันรักษาหลอดเลือดแดง แตก ตีบ หรือตัน ควรทราบด้วยว่า แขนขาอ่อนแรง หรืออัมพาตนั้นไม่ใช่เป็นอาการอย่างเดียวที่พบในโรคเหล่านั้น ยังมีอาการอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เช่น อาการชาครึ่งซีกตัว กลืนอาหารลำบาก ตามองไม่เห็น เห็นภาพเป็นสอง พูดไม่ได้ และพูดไม่ชัด ที่เป็นผลจากหลอดเลือดสมองพิการ แตก หรืออุดตันขึ้น

ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วแต่ต้น  ผู้ป่วยด้วยหลอดเลือดในสมองแตกมีอัตราตายสูงมาก  โดยเฉพาะถ้าหมดสติตั้งแต่ในระยะที่เริ่มเป็นและถ้าความดันโลหิตสูงมาก เป็นที่ยอมรับกันว่า การรักษาด้วยการผ่าตัดเอาก้อนเลือดออก หรือใช้ยาลดความดันอย่างแรงอย่างรีบด่วย ก็ไม่ได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยไว้ได้มากขึ้นเท่าไรนัก แต่ที่สำคัญและสมควรส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ก็เพื่อช่วยให้ได้รับการวินิจฉัยโรคให้ได้แน่นอน เพราะยังมีโรคในสมองบางชนิดที่ทำให้มีอาการคล้ายกันได้ ยิ่งไปกว่านั้น โรคหลอดเลือดแดงในกระโหลกศีรษะที่อยู่บนผิวนอกเนื้อสมองแตก เพราะความพิการ หรือเพราะอุบัติเหตุที่ศีรษะเพียงเล็กน้อย อาจทำให้เกิดอาการอัมพาตและหมดสติได้เช่นกัน โรคเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยแยกออกให้ได้เด็ดขาด  เพราะการรักษาด้วยการผ่าตัดให้ผลดีมาก

จะเห็นได้ว่า เมื่อเข้าขั้นที่หลอดเลือดแตก ตีบ หรือตัน จนทำให้เป็นอัมพาตนั้น ก็เป็นระยะหลังของโรคแล้ว ถึงแม้ว่าการรักษาพยาบาลด้วยยา หรือผ่าตัดประกอบกับการให้กายภาพบำบัดที่ดี อาจช่วยให้ผู้ป่วยรอดตายได้ แต่ส่วนใหญ่ของผู้ที่โชคดีรอดตายก็มักจะมีความพิการเหลืออยู่ไม่มากก็น้อย ที่หายเป็นปกตินั้นพูดได้ว่ามีน้อยมาก  สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการป้องกันไม่ให้เกิดอัมพาตหรืออาการอื่นทางสมองที่กล่าวมาแล้ว การรักษาแรงดันเลือดสูงโดยไปรับการรักษากับแพทย์อยู่เป็นประจำตลอดไปจะช่วยให้โอกาสที่หลอดเลือดในสมองแตกลดลงได้มาก การตีบหรืออุดตันของหลอดเลือดนั้น ๆ ก็จะน้อยลงบ้าง เมื่อกล่าวถึงเรื่องการรักษาแรงดันสูงแล้ว ก็ควรจะทราบด้วยว่าแรงดันเลือดสูงไม่ใช่เป็นโรค เป็นแต่เพียงภาวะที่ผิดปกติ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ สาเหตุบางอย่างก็รักษาให้หายขาด ไม่ต้องรับประทานยากันตลอดไป ฉะนั้นผู้ใดที่ทราบว่าตนมีความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะผู้ที่ยังมีอายุน้อย จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจร่างกายและการตรวจพิเศษอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของความผิดปกตินั้นให้ได้แน่  สำหรับพวกที่แพทย์ลงความเห็นแน่แล้ว ว่าจะต้องรับประทานยาลดความดันโลหิตกันเรื่อยไป ก็ควรจะต้องปฏิบัติตามและไปให้แพทย์ตรวจเป็นประจำ แรงดันเลือดสูงไปมีอันตราย และลดต่ำเกินไปก้ทำให้มีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือแม้แต่เป็นอัมพาตก็ได้ถ้าหลอดเลือดในสมองตีบอยู่บ้างแล้ว  ทั้งนี้เพราะหัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงเนื้อสมองไม่พอ เปรียบได้กับปั๊มน้ำที่แรงแต่น้ำต้องไหลไปตามท่อที่เก่าและตีบเพราะมีหินปูนไปเกาะอยู่เกรอะกรัง ซึ่งเมื่อปั๊มยังทำงานได้ดีอยู่ก็พอเป็นทางนำน้ำไปถึงจุดหมายได้ แต่ปั๊มจะทนทำงานเช่นนี้ได้นานสักเพียงไร

โรคเบาหวานที่มีส่วนช่วยให้หลอดเลือดในสมองและในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทั่วไปตีบเร็วขึ้น ก็ควรจะต้องได้รับการรักษาเป็นประจำเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีแพทย์หลายท่านเชื่อว่า ถ้าผู้ที่เป็นเบาหวานแล้วปล่อยปละละเลยไม่ระวังตัว ปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงมากเกินไป น้ำตาลนั่นเองทำให้เม็ดเลือดโดยเฉพาะเกล็ดเลือด เกาะตัวติดกันง่ายกว่าปกติ  ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่เริ่มทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือดและหลอดเลือดตันได้

การระมัดระวังในเรื่องอาหารประจำวัน  โดยลดปริมาณหรือเลี่ยงไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันสัตว์  ก็อาจจะช่วยให้หลอดเลือดแดงในสมองและในส่วนอื่น ๆ อีกหลายส่วนของร่างกายมีโอกาสแข็งและตีบน้อยลง  เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ควรจะได้รับความสนใจกันอย่างแพร่หลาย  เพราะช่วยลดอุบัติการของโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากหลอดเลือดโคโรนารี่อุดตันด้วย

นอกจากนี้น้ำหนักตัวมากเกินไป ก็มีส่วนที่ทำให้หลอดเลือดสมองพิการได้ เพราะอ้วนมากไปแรงดันเลือดมักจะสูงขึ้น ผนังของหลอดเลือดหนาและแข็งจากหินปูน ไขมัน และโคเลสเตอรอลไปจับ ก็บพบในคนอ้วนได้บ่อยกว่า การพักผ่อนให้เพียงพอและการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันโดยวิธีง่าย ๆ ซึ่งไม่สิ้นเปลืองทั้งเงินและเวลา เช่น การเดินหรือวิ่ง เป็นเรื่องที่ทุกคนน่าจะพยายามปฏิบัติกัน เพราะเป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีผลดีต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ การสูบบุหรี่มากก็มีผลต่อหลอดเลือด  นอกเหนือจากจะเป็นสาเหตุที่ช่วยเพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งของปอดมากขึ้น ฉะนั้นจึงควรเลี่ยงถ้ากระทำได้

ข้อแนะนำต่าง ๆ ที่กล่าวมา ใช้เป็นข้อปฏิบัติได้ดีสำหรับผู้ที่มีโชครอดตายหรือหายจากอัมพาต เพราะหลอดเลือดสมองพิการ เช่นเดียวกับผู้ที่ยังแข็งแรงสมบูรณ์ทุกประการ หรือผู้ที่มีเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงที่มีโอกาสเป็นอัมพาตได้

น.พ. อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ

,

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า