สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

ออกกำลังวันละนิดชีวิตไร้โรคา

อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เป็นสิ่งที่ทุกคน ปรารถนาเพื่อชีวิตที่ยืนยาว จะเห็นว่าแต่ละคนพยายามเสาะแสวงหาวิธีการที่จะ ต่อชีวิตให้กับตัวเอง แม้บางครั้งจะต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายสูงก็ตาม อีกทั้งยังไม่เกิดผลดีอะไรกับร่างกาย วันนี้เราจะคุยกันถึงวิธีการง่ายๆ ที่จะช่วยให้คนเรามีอายุยืนอย่างมีความสุขโดยไม่ต้องเสียเงินเสียทองมากมาย นั่นก็คือการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายอาจทำได้หลายรูปแบบ เช่น การบริหารร่างกายโดย บิดลำตัว ต้นคอ เอว และข้อต่อต่างๆ รำมวยจีน ไทเก๊ก ฤาษีดัดตน การออกกำลังกายโดยใช้เครื่องช่วย เช่น ยกนํ้าหนัก การเล่นกีฬาเช่น ฟุตบอล แบดมินตัน การออกกำลังกายโดยการเต้นแอโรบิค การเดินเร็วระยะทางไกล การว่ายนํ้าระยะทางไกล

ท่านอาจจะสงสัยต่อไปว่าออกกำลังกายอย่างไรจึงจะให้ผลดี การออกกำลังกายให้ได้ประโยชน์อย่างแท้จริงต่อสุขภาพนั้น จะต้องออกกำลังกายให้ได้เป็นประจำทุกวัน หรือ 3 – 5 วันต่อสัปดาห์ และการออกกำลังกายแต่ละครั้งต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงติดต่อกัน วิธีสังเกตตนเองง่ายๆ คือ ออกกำลังกายจนกระทั่งมีอาการหายใจหอบ หากจับชีพจรดูจะพบว่าชีพจรเต้นเร็วขึ้น สำหรับผู้ที่เริ่มสนใจการออกกำลังกาย อย่าเพิ่งหักโหมในระยะแรก ต้องค่อยๆปฎิบัติจนอยู่ตัว แล้วจึงเพิ่มความหนักและระยะเวลาของการออกกำลังกายให้นานขึ้นนานขึ้น

ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยเวลาเดิน วิ่ง หรือขึ้นลง บันได เดิมเชื่อว่าการออกกำลังกายอย่างหนักเท่านั้นที่จะส่งผลให้การทำงานของ อวัยวะต่างๆ ของร่างกายดีขึ้น แต่ในปัจจุบันนักวิจัยชาวต่างประเทศได้ค้นพบแล้วว่า แม้การออกกำลังกายอย่างเบาหรือปานกลาง เช่น การเดิน การขึ้นลงบันได กายบริหาร แม้กระทั่งการทำงานบ้าน ทำสวน ทำนา ที่ต้องออกกำลังก็สามารถ ให้ผลดีต่อสุขภาพ แต่ต้องอย่าลืมหลักสำคัญว่า ต้องทำกิจกรรมนั้นๆ ให้กระดูกและกล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหวในท่าที่ถูกต้อง เป็นระยะต่อเนื่องกันครั้งละอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง และต้องออกกำลังให้ได้ทุกวันเป็นประจำ

งานวิจัยยังพบอีกว่า แม้การออกกำลังกายครั้งละ 10 ถึง 15 นาทีติดต่อกัน หรือออกกำลังกายจนรู้สึกหอบนิดๆ หัวใจเต้นเร็วขึ้น ทำให้ได้รวมวันละอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง และทำให้ได้ทุกวัน ก็สามารถส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงเช่นกัน ความรู้ใหม่ นี้คงจะเป็นข่าวดีข่าวใหม่สำหรับทุกท่าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้เจ็บไข้ที่จะมีกำลังใจในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

หลายคนยังไม่ทราบคุณค่าของการออกกำลังกายดีนัก แท้ที่จริงการออกกำลังกายเปรียบได้กับยาวิเศษที่ช่วยให้ผู้เจ็บป่วยมีอาการดีขึ้น   การ

ออกกำลังกายยังเปรียบเสมือนวัคซีนที่สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และช่วยป้องกัน โรคต่างๆ นักวิชาการชาวอเมริกันท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า ถ้าคุณค่าของการออกกำลังกายสามารถถูกแปลงมาบรรจุลงในเม็ดยาได้ มันจะเป็นยาที่นิยมใช้กันมากที่สุดในโลก

ปัจจุบันผลการวิจัยมากมายยืนยันแล้วว่าการออกกำลังกายเป็นประจำนั้นทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำกล้ามเนื้อหัวใจจะมีกำลังบีบตัวดี ทำให้สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดี ส่วนพวกที่ไม่ออกกำลังกาย กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวได้เพียงเบาๆ ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองและร่างกายน้อย การปรับความดันเลือดไม่ดี ทำให้เวียนศีรษะได้ง่าย จากการวิจัยพบว่า กลุ่มที่ไม่ออกกำลังกายเป็นโรคหัวใจมากกว่ากลุ่มที่ออกกำลังกาย

ยิ่งไปกว่านั้นมีรายงานว่าการออกกำลังกายเป็นประจำส่งผลทำไห้กระดูก แข็งแรงไม่หักง่าย ป้องกันอาการท้องผูก ลดความเครียดของระบบประสาท ทำให้นอนหลับดีขึ้น เป็นแผลในกระเพาะอาหารน้อยลง ความจำดีขึ้น ข่าวดีสำหรับคุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยายก็คือ นักวิจัยพบว่าแม้ในกลุ่มที่สูงอายุมากๆ การออกกำลังกายเป็นประจำก็สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงและทำกิจวัตรในชีวิต ประจำวันได้ดีขึ้น เช่น อาบนํ้า ใส่เสื้อผ้า รับประทานอาหารได้ด้วยตนเองดีขึ้น สาเหตุหนึ่งของการไม่มีเรี่ยวแรง มือไม้สั่น ก็เพราะกล้ามเนื้อนั้นไม่ได้ออกกำลัง จึงทำให้ลีบและกำลังน้อย เราจะสังเกตเห็นว่ากล้ามเนื้อส่วนใดที่ออกกำลังจะใหญ่ และแข็งแรง จึงอยากเชิญชวนทุกท่านเริ่มออกกำลังกายตั้งแต่วันนี้ และตั้งปณิธาน ว่าจะทำให้ได้ทุกวัน เพื่อท่านจะได้มีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีความสุข ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่นในการทำกิจวัตรประจำวันยามแก่เฒ่า สำหรับท่านที่หาเวลาออกกำลังกายโดยเฉพาะไม่ได้ ก็สามารถสอดแทรกการออกกำลังกายไปกับการ ทำงานประจำ เช่น เดินให้ไกลขึ้นและเร็วขึ้น การเดินขึ้นลงบันไดในที่ทำงานแทนที่จะใช้ลิฟท์

อย่าปล่อยให้สังขารของท่านร่วงโรยไปตามกาลเวลา โดยไม่ได้รับการเอาใจใส่จากตัวท่านเอง การออกกำลังกายช่วยท่านได้และยังเป็นการช่วยชาติประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย เพราะในปีหนึ่งๆ รัฐต้องสูญเสีย งบประมาณมหาศาลในการรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยด้วยโรคที่ป้องกันได้ อย่าลืม ออกกำลังกายวันละนิด เพื่อชีวิตไร้โรคา

วรรณิภา  อัศวชัยสุวิกรม

,

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า