สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

ปัญหาประจำเดือนผิดปกติ

ประจุโลหิต บำรุงไฟธาตุ บำรุงโลหิต
หญิงที่ควรมีประจำเดือนแล้วก็ยังไม่มา หรือมาไม่เป็นปกติ ควรใช้ยาพรหมพักตร์ประจุโลหิตร้ายเสียก่อน แล้วจึงค่อยให้กินยาบำรุงไฟธาตุทั้ง 4 ให้สมดุลกัน แล้วบำรุงโลหิตด้วยยากำลังราชสีห์ กำลังแสงพระอาทิตย์ต่อไป เมื่อโลหิตบริบูรณ์ก็จะทำให้มีการปฏิสนธิขึ้นได้

หญิงมีประจำเดือนผิดปกติถึงตายได้
หญิงบางจำพวกในท้องน้อยและหัวเหน่าจะมีโลหิตเป็นก้อนกลมอยู่เท่าฟองเป็ด บางคนอาจอยู่ในทรวงอก บางคนก็ก้อนกลิ้งขึ้นลงในท้องน้อย ทำให้ปวดท้องมาก บางทีก็จุกยอดอกทั้งกลางวันและกลางคืนทำให้เจ็บปวดมาก อาจทำให้ตายได้ถ้ามีอาการครบ 7 วัน ซึ่งน่าจะเกิดจากก้อนเนื้องอกหรือถุงน้ำในรังไข่

หญิงระดูไม่มาเมื่อครบกำหนด หรือระดูแห้ง
หญิงที่มีอายุได้ 14-15 ปีแล้วก็ยังไม่มีระดู หรือมีระดูแล้วแต่ก็แห้งหายไป ควรรักษาด้วยการให้กินยาเพื่อบำรุงไฟธาตุทั้ง 4 ให้สมดุลบริบูรณ์ก่อน แล้วจึงให้ยาบำรุงโลหิต และตามด้วยยาขับโลหิตต่อไป

ขัดระดู
หญิงที่มีระดูมาแล้วแต่กลับแห้งหายไป ให้ปวดขัดที่หัวเหน่าเมื่อถ่ายปัสสาวะ อ่อนเพลีย เสียดบริเวณสีข้าง จุกแน่นหน้าอก เมื่อนวดอาการก็จะทุเลาลงแต่ก็จะกลับมาเป็นอีก เมื่อเป็นซ้ำๆ ก็จะกลายเป็นฝีในมดลูก บางทีก็กลายเป็นลมก้อน ลมเถา เรียกโรคนี้ว่า กษัย ดาลเถา โลหิตชนิดนี้อาจทำให้สตรีถึงแก่ความตายได้

อาการนี้ในแผนปัจจุบันอาจเป็นอาการของเนื้องอกในมดลูก แล้วลามไปที่กระเพาะปัสสาวะ ก้อนเนื้อไปกดทับกระเพาะปัสสาวะทำให้ปัสสาวะติดขัดไม่สะดวก

ระดูเน่า
สตรีที่มีระดูเดินไม่สะดวกไม่เป็นปกติ มักจะทำให้โลหิตมีกลิ่นเหม็นเน่า บางครั้งอาจเป็นเหมือนน้ำคาวปลาหรือน้ำซาวข้าว ทำให้จุกเสียด สะบัดร้อนสะบัดหนาว ปวดเมื่อยไปทั้งตัว ทำให้หน้า มือ เท้า ท้อง บวม ปวดบริเวณหัวเหน่า บั้นเอว สะโพก หน้าดำคล้ำ หัวนมมีสีดำคล้ายคนตั้งครรภ์ ทำให้ปวดศีรษะมาก เพ้อคลั่ง บางคนทำให้มีตาเหลือง ตาขาว ตาแดง เป็นต้อ

อาการเช่นนี้ในแผนปัจจุบันต้องนึกถึงการเกิดมะเร็งในมดลูก หรือปากมดลูก เพราะมีเลือดออกมาจากช่องคลอด และมีกลิ่นเหม็นเน่า

ที่มา:จากหนังสือวิทยาศาสตร์ในการแพทย์แผนไทย
โดยอาจารย์แพทย์หญิงเพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ
รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า