สำหรับผู้ใส่ใจในการรักษาสุขภาพ ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

การเจ็บป่วยจากฤดูสมุฏฐาน

ธาตุทั้ง 4 กำเริบ หย่อน พิการในฤดู 6 กำเดาเจือลม ปิตตังแตกในคัมภีร์โลกนิทานกล่าวไว้ว่า

1. ฤดู 6
-เดือนห้าเดือนหกพูน ชื่อคิมหันต์ฤดูเดิม ผิไข้ในสองเดือนกำเดาดีย่อมเพิ่มเติม โทษเจ็ดหากหึกเหิม ให้แสบอกเมื่อยตีนมือ เสียดแทงนอนมิหลับ มักมวนท้องร้องครางฮือ อาเจียนแลรากรือ ทั้งสะอึกวิกลร้าย

-เดือนเจ็ดแลเดือนแปด สองเดือนนี้ท่านภิปราย คิมหันต์ฤดูหมายเพื่อเตโชแลวาโย คิมหันต์แลวสันต์ เพื่อกำเดาโลหิต ปวดมวนในกาโย ทั้ง 4 สิ่งกล้าหนักหนา เกิดโรคในศีรษะให้มีพิษบ่นิทรา อาหารที่ภุญชาบ่รู้รสระส่ำระสาย คลั่งไคล้ลืมอินทรีย์ โทษโลหิตกำเดานั้น แพทย์แก้ให้พลันคลาย

-เดือนเก้าเดือนสิบ ชื่อสวันต์ฤดูพูน ผิไข้เป็นเค้ามูลด้วยวาโยพิษกล้าแข็ง เกิดโรคเพื่อเสมหะ ติดอุระอันยิ่งแรง หนักอกดังหนึ่งแกล้ง มากลิ้งทับประกับไว้ หายใจมักขัดอก บังเกิดโรคต่างๆ ไป คันตัวมีพิษไซร้ โทษทั้ง 2 หากเจือกัน วาโยแลเสมหะ บังเกิดกล้ากว่าทุกอัน

-เดือนสิบเอ็ดสิบสอง ฤดูเจือกำเริบร้าย ชื่อสารทฤดูหมาย เจือวสันต์แลเหมันต์ ผิไข้เกิดเพื่อลมเสมหะมูตรเป็นสำคัญ ร้อนทรวงแลอกนั้น ร้อนในไส้ในกายเอง บังเกิดโรคในอกให้เจ็บฟกเป็นหลายเพลง เจ็บกระดูกสันหลังเอง ดังหลุดลุ่ยแลเจ็บคอ

-เดือนอ้ายแลเดือนยี่ สองเดือนนี้เหมันต์ขาน อาโปย่อมมันหวาน ปัถวีแทรกสำคัญ ผิไข้เพื่อเสมหะ กำเดาเลือดเจือปนเป็น โทษมากหากให้เห็นยิ่งกว่าสิ่งสิ้นทั้งปวง ให้เจ็บซึ่งสันหลัง แลบั้นเอวเป็นใหญ่หลวง ดังจะลุ่ยหลุดล่วง ทั้งต้นคอสลักขึง ประดุจตรีโทษในเงื้อมมือมัจจุรึง

-เดือนสามแลเดือนสี่ สิสิระฤดูพลัน ปถวีธาตุดินนั้น เป็นมูลโรคธิบดี เกิดโรคด้วยเลือดลม กำเดาเจือเสลดนี้ แปรปรวนกำเริบมี วิการโรคต่างๆ เป็นเกิดโรคให้ฟกบวม หูทั้งสองเป็นหนองเหม็น เลือดเน่าหากให้เป็น ย่อมไหลออกจากโสตา

ที่กล่าวมาส่วนใหญ่จะเป็นอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท โรคติดเชื้อ อาการคล้ายโรคหัวใจขาดเลือด อาการต่างๆ จะคล้ายกับหลักวิทยาการระบาดในวิชาแพทย์สมัยใหม่ที่ว่า ในเดือนนั้นๆ มักมีอาการของโรคอะไร เช่น ต้นฤดูฝนที่มักจะมีผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออก เป็นต้น

2. กำเดาเจือลม
หนาวนอนสะท้าน ปวดหัวดังจะแตก ย่อมรุ่มร้อนเป็นอาการ ต้องพรมชลธาร ให้เหงื่อออกระส่ำระสาย วิงเวียนบ่มีสุข เพศดังนี้พึงกฎหมาย รู้แม่นจะพลันคลาย เพราะวางยาเฉพาะเป็น

-เสมหะแลกำเดา ให้หนาวแลให้เย็น ให้ขนลุกแสยงขน จุกอกหายใจขัด ให้กระหายให้ร้อนรน เหงื่อออกวิงเวียนวน ปวดเศียรระส่ำระสาย

-ลมแลเสมหะ ให้ปวดเสียวเสโทเฟื่อง หนาวสะท้านอยู่เนืองๆ ยิ่งด้วยร้อนให้วิงเวียน อาหารกินบ่ได้

-เลือดแลกำเดา ให้ร้อนดังเพลิงลาม ปวดหัวระส่ำระสาย ไม่หลับมักคลั่งเพ้อ ทั้งอาหารก็กินคลาย เห็นน้ำมักกระหาย โทษโลหิตกำเกาทำ

พอจะจับแนวทางและหลักการของอาการต่างๆ ได้ว่า ถ้าเป็นเรื่องกำเดาก็จะมีความร้อนในร่างกาย ตัวร้อนจัด มีไข้สูง ถ้าเป็นเรื่องเสมหะจะเกี่ยวกับระบบน้ำในตัวทั้งหมด ถ้าเป็นเรื่องไฟจะเกี่ยวกับน้ำดี น้ำย่อย ถ้าน้ำเกินกับไฟน้อยหรือพิการจะเกี่ยวกับการบวม ถ้าเกิดจากลมจะเกี่ยวกับพลังที่ใช้เดิน นั่ง นอน คู้ เหยียด

ควรเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และตีความ ความรู้ในการรักษาแบบโบราณเพื่อใช้เชื่อมโยงกับโรคในปัจจุบันให้เกิดประโยชน์ และเพื่อให้มีการวินิจฉัยโรคได้ตรงกัน

3. ปิตตังแตก
อาพาธมักคลั่งไคล้ ให้พกเพ้อละเมอหลง นอนหวาดสะดุ้งหวั่น บางทีนั้นกลับงวยงง กินยาประจุส่ง ลงแดงเหลืองเป็นสีเขียว บ่มีสติตั้งผิอาการดังนี้เจียว

-ดีรั่ว ดีรั่วให้ลงดังน้ำไหลอติสารสีขมิ้น บิดปวดนอนสะดุ้ง มักโกรธขึ้งใจเดือดดิ้น

-ดีล้น ดีล้นพ้นจากฝักรั่วกระจายให้ลงระส่ำระสาย ให้คลั่งไคล้ดังเป็นบ้า พูดพลอดกับปีศาจ บ่ไสยาสน์สักทิวา

ธาตุไฟปกติในแผนโบราณมี 4 ประการ คือ ไฟย่อยอาหาร ไฟอุ่นกาย ไฟทำให้แก่ และไฟทำให้ระส่ำระสาย มีพัทธะ อพัทธะ กำเดา เป็นไฟที่ควบคุมสุขภาพ พัทธะ คือ ดีในฝัก อพัทธะ คือ ดีนอกฝัก น้ำดีคือธาตุน้ำ เรียกว่า ปิตตัง เป็นธาตุไฟที่ทำหน้าที่ย่อยไขมันในร่างกาย ในแผนไทยน้ำดีมีความสำคัญมาก โบราณมักใช้คำว่า บ้าดีเดือด ดีล้น ดีพลุ่ง ดีรั่ว ดีแตก ในแผนไทยอาการดีผิดปกติมักมีอาการทางสมองและประสาทเสมอ ในแผนปัจจุบันระยะท้ายของตับวายจะมีอาการเพ้อไม่รู้ตัว

อาการเกี่ยวกับน้ำดีที่พบบ่อยในปัจจุบันคือ ตับอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ การเกิดนิ่ว อาการหนาวสั่นที่เกิดจากการติดเชื้อทางเดินน้ำดี ที่โบราณว่าอาการดีล้นจะทำให้ตัวเหลืองตาเหลือง อาจเป็นเพราะมีการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดรุนแรง โรคเกี่ยวกับดีตามที่โบราณกล่าว จะเป็นอาการเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารทั่วไป ที่ทำให้เกิดปัญหาที่น้ำย่อย น้ำดี และทำให้มีอาการของโรคตับ

ที่มา:จากหนังสือวิทยาศาสตร์ในการแพทย์แผนไทย
โดยอาจารย์แพทย์หญิงเพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ
รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

↑ กลับสู่ส่วนบนของหน้า